บทกลอนที่ว่าด้วยดาวที่เดินวิกลคติ
บทกลอนเก่าแก่เกี่ยวกับการโคจรที่วิปริตผิดปกติของดาวที่เดินวิกลคติ คือ “จักกล่าวพระเคราะห์จรตามราศี อันอาจารย์แจ้งอรรถสาลินีพระอภิธรรมโดยมีฎีกามา พระอาจารย์จารึกบรรทึกไว้คัมภีรไสยตามพุทธโฆษา พระเคราะห์มนท์เสริดพักรนานา ทํานายว่าต่างๆ จะเกิดเป็น
๑. อังคารพักรมีข้าศึกต่างเมืองมา อังคารเสริดนั้นท่านว่าเกิดยุคเข็ญ อังคาร มนท์จะวิกลบังเกิดเป็น มหาชนเกิดเข็ญออกผีตาย จะเจ็บท้องลงแดงตายเสียมาก ความทุกข์ยากในมนุษย์มากหลาย
๒.พระเสาร์และอังคารท่านภิปราย พักรในราศีร้ายจําเพาะมี คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนูพักร ว่าร้ายนักทํานายไว้สี่ราศี จะเกิดความฉิบหายวายชีวี พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน
๓. พระอังคารผิวพักรราศีเมษ มหากษัตริย์จะเป็นเหตุแสดงผล
๔.พระพุธพักรในกุมภราศี พระบุรีร้อนทุกทิศา ราชบุตรจะต่อยุทธต่อกษัตรา ในเดือนแปดทุติยาเป็นมั่นคง พระพุทธมนท ์ ว่าฝนนั้นจะน้อย ข้าวกล้าตายฝอยดินแห้งเป็นผุยผง
๕.พระศุกรมนท์ข้าวแพง ทำนายตรง บูรพาอาจารย์ ท่านทํานายมา จะเกิดลมพายุวิปริตจะเกิด
๖.พระอังคารพักรในราศีเมษธนูสิงห์สามนี้ร้ายหนักหนา เป็นนิมิตรแก่แผ่นพสุธา จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์ อีกไข้ทรพิษเป็นมหันต์ มหาชนจะพินาศลงดาษครัน อังคารนั่นนมนท ์เกิดไข้ตาย
๗.พฤหัสบดีมนท์แพ้สมณะพรหมณา
๘.พระศุกร์มนท์ทายว่าฝนจะแล้ง ข้าวจะแพง ข้าวกล้าตาย
๙.พระเสาร์มนท ์ นั้นทายว่า เกิดอันตรายวัวควายจะตาย ประชาราษฎรจะเดือนร้อนทั่วกรุงศร ี ดูทํานายตามพระบาลีที่กล่าวนี้เป็นฉบับโบราณเอย”
สรุปการพยากรณ์จากบทกลอนเกี่ยวกับดาวพักรองศา
บทกลอนโบราณนี้กล่าวถึงอิทธิพลของ ดาวเคราะห์ที่โคจรวิปริตผิดปกติ หรือที่เรียกว่า "ดาวโคจรแบบวิกลคติ" ซึ่งเป็นการโคจรแบบ พักร (เดินถอยหลัง), เสริด (เดินเร็วผิดปกติ), มนท์ (หยุดนิ่งในระยะหนึ่ง) และส่งผล กระทบต่อดวงเมืองและดวงชะตา
สรุปผลกระทบของดาวเคราะห์เมื่อพักรองศา
- ดาวอังคาร (๓)
- พักร → ข้าศึกต่างเมืองรุกราน
- เสริด → เกิดยุคเข็ญ
- มนท์ → ประชาชนเดือดร้อน เกิดโรคภัยหนัก เช่น ออกผี ไข้ลงแดง
- พักรราศีเมษ → มหากษัตริย์หรือผู้นำประเทศได้รับผลกระทบ
- พักรราศีเมษ, ธนู, สิงห์ → แผ่นดินไหว ภัยพิบัติรุนแรง โรคระบาด
- ดาวเสาร์ (๗)
- พักรราศีพฤษภ, สิงห์, มีน, ธนู → เกิดภัยพิบัติร้ายแรง แผ่นดินแยก โลหิตนองแผ่นดิน
- มนท์ → วัวควายล้มตาย ประชาชนเดือดร้อนหนัก
- พระเสาร์และอังคารท่านภิปราย พักรในราศีร้ายจําเพาะมี คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนูพักร ว่าร้ายนักทํานายไว้สี่ราศี จะเกิดความฉิบหายวายชีวี พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน
- ดาวพุธ (๔)
- พักรในราศีกุมภ์ → บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ เกิดศึกสงคราม พระโอรสหรือเชื้อพระวงศ์ทำศึกกับกษัตริย์
- มนท์ → ฝนแล้ง พืชผลเสียหาย
- ดาวศุกร์ (๖)
- มนท์ → ข้าวแพง เกิดภัยพิบัติ ลมพายุรุนแรง
- ดาวพฤหัสบดี (๕)
- มนท์ → สมณะและพราหมณ์ (พระ นักบวช) ได้รับผลกระทบ แพ้ภัยหรือเกิดความเสื่อมเสีย
ข้อสังเกตสำคัญ
- ดาวอังคาร (๓) และดาวเสาร์ (๗) มีผลร้ายแรงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพักรหรือมนท์
- ดาวอังคารพักรราศีเมษ ส่งผลต่อมหากษัตริย์หรือผู้นำประเทศ
- ดาวเสาร์พักรในราศีพฤษภ สิงห์ มีน ธนู เป็นสัญญาณของภัยธรรมชาติและการเสียชีวิตครั้งใหญ่
- ดาวพุธและดาวศุกร์พักรหรือมนท์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และสภาพอากาศ
- ดาวพฤหัสมนท์ ส่งผลต่อศาสนาและผู้มีศีลธรรม
สรุปโดยรวม
ดาวอังคารและเสาร์ให้โทษรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพักรในราศีที่เป็นอัปมงคล คือทุสนะภพ(อริ มรณะ หรือวินาสน์) ดาวพุธและศุกร์พักรหรือมนท์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติและสภาพอากาศ ดาวพฤหัสมนท์ ส่งผลต่อศาสนาและความเชื่อของผู้คน ดังนั้น การพยากรณ์ดวงเมืองหรือเหตุการณ์สำคัญ จำเป็นต้องพิจารณาดาวพักรองศาควบคู่กับตำแหน่งราศีที่ดาวจรไปทับด้วยเสมอ
ดาวเสาร์(๗) ในดวงเมืองไทยเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนกัมมะ สถิตราศีธนู ธาตุไฟ จรย้ายราศีจากราศีกุมภ์ มาสถิตราศีมีน ธาตุน้ำ หลังวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๘ ฉะนั้น ดาวเสาร์(๗) จร เป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษด้านกัมมะ
วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๘ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ดาวเสาร์(๗) พักรองศา สถิตราศีมีน ภพวินาสน์
การพยากรณ์ดวงเมืองไทย เมื่อดาวเสาร์ (๗) จรเข้าราศีมีน ธาตุคู่ศัตรู หลังวันที่ 30 มีนาคม 2568
วิเคราะห์การโคจรของดาวเสาร์ (๗) และผลกระทบต่อดวงเมือง
๑. ดาวเสาร์ (๗) จรจากราศีกุมภ์ เข้าราศีมีน (ธาตุน้ำ - ธาตุคู่ศัตรู)
ตำแหน่งเดิม → ดาวเสาร์ (๗) เป็นเจ้าเรือนกัมมะ (การงานของประเทศ, ภาคอุตสาหกรรม, แรงงาน) ในดวงชาตาเดิมสถิตราศีธนู ตำแหน่งจร สถิตราศีมีน ธาตุน้ำ ภพวินาสน์ (ความสูญเสีย, อุปสรรค, ความเสียหายใหญ่, ภัยพิบัติ) ฉะนั้น ดาวเสาร์(๗) จรเป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๘ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ดาวเสาร์(๗) พักรองศา
ผลกระทบหลัก เศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจใหญ่อาจล้ม หรือเผชิญปัญหาขาดทุน แรงงานเผชิญปัญหา อัตราการว่างงานสูงขึ้น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม, ภัยพิบัติทางน้ำ, โรคระบาด รัฐบาลเผชิญแรงกดดันในการบริหารประเทศ
๒. ดาวเสาร์ (๗) จรทับดาวพุธ (๔) ซึ่งจรมนท์ (16 มีนาคม - 7 เมษายน 2568)
ดาวพุธ (๔) เป็นเจ้าเรือนสหัชชะ (การสื่อสาร, คมนาคม, การเจรจา) และอริ (ปัญหาคู่แข่ง, คดีความ, ศัตรู) ผลกระทบหลัก ปัญหาด้านสื่อสารมวลชน การเซ็นเซอร์ข่าว การบิดเบือนข้อมูล ความขัดแย้งด้านการคมนาคม อาจมีอุบัติเหตุร้ายแรง หรือปัญหาการขนส่ง ปัญหาทางกฎหมาย มีคดีความสำคัญเกิดขึ้น หรือรัฐบาลเผชิญแรงกดดันทางกฎหมาย
๓. ดาวเสาร์ (๗) จรทับดาวศุกร์ (๖) ซึ่งจรพักรองศา (3 มีนาคม - 13 เมษายน 2568)
ดาวศุกร์ (๖) เป็นเจ้าเรือนกดุมภะ (การเงินของประเทศ) และปัตนิ (พันธมิตร, หุ้นส่วน, สนธิสัญญา) ผลกระทบหลัก วิกฤตเศรษฐกิจ ค่าเงินผันผวน เงินเฟ้อสูง การเงินของประเทศเสียหาย ตลาดหุ้นผันผวน การลงทุนลดลง การค้าระหว่างประเทศมีปัญหา ปัญหาด้านพันธมิตรทางการเมือง หรือเศรษฐกิจ อาจเกิดความขัดแย้งกับต่างประเทศ
๔. ดาวเสาร์ (๗) จรทับดาวราหู (๘) ซึ่งเป็นเจ้าเรือนลาภะ
ดาวราหู (๘) เป็นเจ้าเรือนลาภะ (ผลประโยชน์, การค้าขาย, นักลงทุนต่างชาติ, การพนัน, การเมืองเงา) ผลกระทบหลัก ตลาดหุ้นผันผวนหนัก นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น มีการเปิดโปงคดีคอร์รัปชันระดับใหญ่ในรัฐบาล หรือแวดวงธุรกิจ ปัญหาด้านนโยบายรัฐ อาจมีความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจ และผลประโยชน์ของกลุ่มทุนใหญ่
สรุปการพยากรณ์ เศรษฐกิจชะลอตัว, ค่าเงินอ่อนตัว, ตลาดหุ้นตกต่ำ การเมืองมีความขัดแย้ง, อาจเกิดแรงกดดันต่อรัฐบาล อาจเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับน้ำ (น้ำท่วม, พายุ, ภัยแล้ง) แรงงาน และภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ อัตราการว่างงานสูงขึ้น เกิดคดีความระดับประเทศ หรือการเปิดโปงเรื่องทุจริต อาจสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง
ทางออกและข้อเสนอแนะ รัฐบาลควรเตรียมแผนรับมือด้านเศรษฐกิจ และบริหารการเงินอย่างรัดกุม จับตาตลาดหุ้น และการลงทุน ควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งด้านเศรษฐกิจ เฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับน้ำ และป้องกันปัญหาการขนส่ง
#สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ตามระบบธาตุและเรือนชาตา ตามหลักของท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(ุอุตรภัทร์) อาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย นำหลักเคล็ดลับการพยากรณ์ตามหลักระบบธาตุของอาจารย์บรรเทา มาใช้ในการวิเคราะห์ทั้งในดวงชาตาเดิม และดวงชาตาจร ทำให้การพยากรณ์ดวงชาตาเกิดความแม่นยำมากในการพยากรณ์ดวงชาตาเดิมและการพยากรณ์ดวงชาตาจร การเชื่อมโยงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจรทำให้คำพยากรณ์ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมทั่งสอนเรื่องดวงกาลชาตา สอนในการนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไทยไปใช้ในการให้ฤกษ์อีกด้วย เป็นหลักสูตรเดียวที่เรียนครบทั้งการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม การเชื่อมโนงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจร ดวงกาลชาตา รวมทั้งการให้ฤกษ์ต่าง ๆ อาจารย์จะเปิดสอนรุ่นที่ ๑๙ เริ่มเรียนครั้งที่ ๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กันย่ายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เรียนจำนวน ๑๐ อาทิตย์ หลังจากจบการสอนในแต่ละสัปดาห์ผู้เรียนจะได้รับบันทึกการสอน(vdo)และเอกสารประกอบการสอนทางอีเมล์ เพื่อใช้ทบทวนการเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ดีอย่างเป็นระบบ สนใจสมัครเรียนรุ่นนี้ให้อินบ๊อก : m.me/arjarnth
