เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖) เพิ่มเติม

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖) เพิ่มเติม

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖) เพิ่มเติม

๑. ดาวศุกร์ (๖) ในโหราศาสตร์ไทยถือเป็นดาวที่มีอิทธิพลสำคัญต่อความรัก ความงาม ศิลปะ และทรัพย์สิน คำกลอนที่ว่า "กิเลสสมบัติทายศุกร์" สะท้อนถึงบทบาทของดาวศุกร์ในสองด้านหลัก คือ "กิเลส" และ "สมบัติ"​

กิเลส: หมายถึงความรัก ความสวยงาม และรสนิยมทางศิลปะ ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญของจิตใจมนุษย์ ซึ่งรวมถึงกามารมณ์และความต้องการทางเพศ ผู้ที่มีดาวศุกร์เด่นในดวงชะตามักเป็นคนรักสวยรักงาม มีเสน่ห์ และมีอารมณ์สุนทรีย์ทางด้านศิลปะและการแสดง ​

สมบัติ: หมายถึงการเงินและทรัพย์สิน ผู้ที่มีดาวศุกร์เด่นและส่งผลถึงลัคนามักอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง หากเป็นหญิงจะมีรูปร่างสวยงาม มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น หากเป็นชายจะมีท่าทางสง่างาม ​

ในทางดาราศาสตร์ ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกและก่อนรุ่งสาง ชาวโรมันถือว่าดาวศุกร์เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดาแห่งความรักและความงาม ​

นอกจากนี้ ดาวศุกร์จะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เกิน ๔๐ องศา ทำให้ไม่สามารถเล็งกับดวงอาทิตย์ได้เหมือนดาวอื่น ๆ หากดาวศุกร์อยู่ในราศีที่ ๓ หรือ ๑๑ จากดวงอาทิตย์ จะอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า "ดาวศุกร์เพ็ญ"​

สรุปแล้ว ดาวศุกร์ (๖) เป็นดาวที่มีอิทธิพลต่อความรัก ความงาม ศิลปะ และทรัพย์สิน ผู้ที่มีดาวศุกร์เด่นในดวงชะตามักมีเสน่ห์ รักสวยรักงาม และมีความสามารถทางศิลปะ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพย์สินและการเงินอีกด้วย

๒. ดาวศุกร์ (๖) ทำหน้าที่เป็นเกษตรในสองราศี ได้แก่ ราศีพฤษภและราศีตุลย์ โดยแต่ละราศีมีลักษณะเฉพาะที่ส่งผลต่อบุคคลแตกต่างกัน ดังนี้:​

ราศีพฤษภ (ธาตุดิน): เมื่อดาวศุกร์สถิตในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นภพกดุมภะ (การเงิน) ของดวงชะตาโลกและประเทศไทย บุคคลจะมีลักษณะดังนี้:​

  • ความรัก: มั่นคง หนักแน่น รักใครรักจริง ไม่เปลี่ยนแปลงง่าย​
  • การเงิน: ละเอียดรอบคอบในการจัดการทรัพย์สิน รู้จักใช้เงินอย่างมีประโยชน์​
  • บุคลิกภาพ: มีเสน่ห์ รักความสวยงาม ชื่นชอบศิลปะและดนตรี​

ราศีตุลย์ (ธาตุลม): หากเจ้าชาตามีลัคนาสถิตราศีเมษ เมื่อดาวศุกร์สถิตในราศีตุลย์ ซึ่งเป็นภพปัตนิ (คู่ครอง) ของดวงชะตาโลกและประเทศไทย บุคคลจะมีลักษณะดังนี้ 

  • ความรัก: โรแมนติก ปรับตัวเก่ง เจ้าสำราญ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม​
  • การเงิน: มีความสามารถในการนำทรัพย์สินไปลงทุนหรือเพิ่มมูลค่า​
  • บุคลิกภาพ: สร้างสรรค์ในงานศิลปะ หากเป็นนักแสดงจะมีความสามารถในการแสดงที่โดดเด่น​

สรุปแล้ว ดาวศุกร์ในราศีพฤษภเน้นความมั่นคงและรอบคอบในความรักและการเงิน ส่วนในราศีตุลย์เน้นความยืดหยุ่น โรแมนติก และความสามารถในการสร้างสรรค์และลงทุน

๓. ​ในโหราศาสตร์ไทย ดาวศุกร์ (๖) ถือเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มักให้คุณแก่เจ้าชะตา อย่างไรก็ตาม มีกรณีที่ดาวศุกร์เล็งลัคนา (อยู่ตรงข้ามกับลัคนา) ซึ่งอาจส่งผลให้โทษแก่เจ้าชะตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ สถานการณ์นี้เรียกว่า "พินทุบาทว์" ซึ่งหมายถึงจุดที่เสียหายหรือมืดบอดในดวงชะตา  

ผลกระทบของดาวศุกร์เล็งลัคนาในกรณีพินทุบาทว์:

  • ชีวิตคู่และความรัก: เจ้าชะตาอาจประสบปัญหาในเรื่องคู่ครอง เช่น คู่ครองไม่ซื่อสัตย์ การพลัดพราก หรือการสูญเสียคู่ครอง ​
  • ความสัมพันธ์: อาจเกิดความขัดแย้งหรือปัญหาในความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้เกิดความไม่สงบในชีวิตส่วนตัว​
  • สุขภาพจิต: ความเครียดหรือความกังวลใจอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์และชีวิตคู่

๔. ​ในโหราศาสตร์ไทย คำว่า "อนุเกษตร" หรือ "เกษตรน้อย" หมายถึงตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่ให้คุณรองลงมาจากตำแหน่งเกษตร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้:​

๔.๑.ดาวอนุเกษตรที่เป็นประสลับเรือนกัน: เกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์สองดวงที่อยู่ในตำแหน่ง "ประ" (เสื่อม) สลับเรือนกันและเล็งกัน ส่งผลให้ตำแหน่งประคืนตัวขึ้นมาเป็นอนุเกษตร ในระยะแรก (ก่อนอายุ 35 ปี) ดาวทั้งสองจะให้ผลเสียตามตำแหน่งประ และหลังจากนั้นจะให้ผลดีตามความหมายของเกษตร ตัวอย่างเช่น ดาวอังคาร (๓) สถิตราศีพฤษภ และดาวศุกร์ (๖) สถิตราศีพิจิก ซึ่งเป็นการสลับเรือนกัน จะให้ผลเสียในระยะแรก และให้ผลดีในภายหลัง​ ดาวอนุเกษตร ที่เป็นประสลับเรือนกัน  คือดาวที่เป็นประ ๒ ดวงเล็งกัน ทำให้ประคืนตัวขึ้นมาเป็นอนุเกษตร จะให้ผลเสียตามประ(เสื่อม)ก่อนในระยะแรก แล้วจึงให้ผลดีตามความหมายของเกษตร(ดี)ในภายหลัง  ตามคุณภาพของดาวแต่ละดวง  เช่น ดาวอังคาร(๓) สถิตราศีพฤษภ ดาวศุกร์(๖) สถิตราศีพิจิก เป็นประเกษตร สลับเรือน  จะให้ผลเสีย คือเป็นประในระยะแรก (ก่อนอายุ ๓๕ ปี) และจะให้ผลเป็นเกษตร (หลังจากอายุ ๓๕ ปี)

๔.๒. ดาวอนุเกษตรที่เป็นเกษตรแลกเรือนกัน: เกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์สองดวงที่อยู่ในตำแหน่งเกษตรของตนเอง สลับเรือนกันโดยไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประ ในระยะแรก ดาวทั้งสองจะให้ผลเป็นกลาง ๆ และหลังจากนั้นจะให้ผลดีตามความหมายของเกษตร ตัวอย่างเช่น ดาวอาทิตย์ (๑) เจ้าเรือนลัคนา สถิตราศีกุมภ์ (เรือนของราหู) และดาวราหู (๘) สถิตราศีสิงห์ (เรือนของอาทิตย์) ซึ่งเป็นการแลกเรือนกัน  ดาวอนุเกษตรทื่เป็นดาวเกษตรแลกเรือนกัน จะให้ผลแบบดาวธรรมดาที่ให้ผลเป็นกลาง ๆ พื้น ๆ ในระยะแรก แล้วต่อมาจึงให้ผลที่ดี (เกษตร) ในภายหลัง ตามคุณภาพของดาวแต่ละดวง กล่าวคือ ก่อนอายุ ๓๕ ปี ให้ผลแบบกลาง ๆ พื้น ๆ แต่หลังจากอายุ ๓๕ ปี จะให้ผลเป็นเกษตร 

๕.  ดาวศุกร์ (๖) เมื่อสถิตราศีมีนจะได้ตำแหน่ง "อุจจ์"  ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีความเข้มแข็งและส่งผลดีอย่างยิ่งต่อเจ้าชะตา ตำแหน่งนี้ส่งผลให้บุคคลนั้นมีรูปงาม หน้าตาสวยหล่อ รูปร่างดี มีทรัพย์สิน และมีความรู้มาก 

อย่างไรก็ตาม บุคคลที่มีดาวศุกร์ในตำแหน่งนี้อาจมีความอ่อนไหวและโรแมนติกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดความรักที่อ่อนไหวง่าย และมีแนวโน้มที่จะหลงรักจนเกินไป ดังนั้น ควรระวังในการเลือกคู่ครองที่มีความเหมาะสมและมีศีลเสมอกัน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

นอกจากนี้ หากดาวศุกร์อยู่ในตำแหน่งที่เป็น ๓ หรือ ๑๑ จากดาวอาทิตย์ (๑) ซึ่งเรียกว่า "ดาวศุกร์เพ็ญ" จะยิ่งส่งเสริมให้เจ้าชะตามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีบุคลิกที่มีเสน่ห์ และมีผิวพรรณละเอียดอ่อน หากเป็นหญิง จะมีเสน่ห์มากและประสบความสำเร็จในด้านการเงิน แม้จะเกิดในตระกูลที่ไม่ร่ำรวย แต่ก็จะสามารถสร้างฐานะได้อย่างรวดเร็ว

๗. ดาวศุกร์ (๖) เมื่อสถิตในราศีธนู จะได้ตำแหน่งมหาจักร ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ให้คุณอย่างยิ่งในทางโหราศาสตร์ไทย คำว่า "มหาจักร" หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ ผู้ที่มีดาวศุกร์ในตำแหน่งนี้มักมีโภคทรัพย์สมบัติมากมาย มีฐานะร่ำรวย และหากรับราชการก็จะมียศศักดิ์สูง หรือหากประกอบอาชีพอื่นก็จะมีชื่อเสียงโด่งดัง  อย่างไรก็ตาม การได้ตำแหน่งมหาจักรนั้น มักต้องผ่านการต่อสู้และความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จและความมั่งคั่ง ต่างจากตำแหน่งราชาโชคหรือมหาอุจจ์ที่อาจได้รับความสำเร็จมาโดยสะดวกกว่า 

นอกจากนี้ ผู้ที่มีดาวศุกร์ในราศีธนูมักมีความรักเหลือเฟือ มองเห็นความรักเป็นเรื่องสูงส่งและมีอุดมคติ  

สรุปแล้ว ดาวศุกร์ในราศีธนูในตำแหน่งมหาจักรจะส่งผลให้เจ้าชะตามีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านทรัพย์สิน ชื่อเสียง และความรัก แต่ทั้งนี้ต้องผ่านความพยายามและการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จเหล่านั้น​

 

๘.  ​ดาวศุกร์ (๖) เป็นดาวที่มีอิทธิพลสำคัญในทางโหราศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อสถิตในราศีต่าง ๆ จะส่งผลต่อบุคลิกภาพและชีวิตของเจ้าชะตาแตกต่างกันไป เมื่อดาวศุกร์สถิตในราศีมังกรและราศีกุมภ์ จะมีลักษณะและอิทธิพลดังนี้:​

ดาวศุกร์สถิตในราศีมังกร (ธาตุดิน):

ดาวศุกร์ในราศีมังกรทำให้เจ้าชะตามีลักษณะของความมั่นคงและความรับผิดชอบสูง เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและความเป็นไปได้ในระยะยาวมากกว่าความรักแบบชั่วคราว อาจแสดงความรักผ่านการกระทำและกิจวัตรประจำวัน เช่น การดูแลเอาใจใส่ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าการแสดงออกอย่างโรแมนติก อย่างไรก็ตาม หากดาวศุกร์ได้รับผลกระทบในทางลบ อาจทำให้เจ้าชะตารู้สึกเศร้าหมองหรืออิจฉาเกียรติยศและความเคารพได้ 

ดาวศุกร์สถิตในราศีกุมภ์ (ธาตุลม):

ดาวศุกร์ในราศีกุมภ์ทำให้เจ้าชะตามีความรักในรูปแบบที่เป็นอิสระและไม่ยึดติดกับประเพณี มีแนวโน้มที่จะมีความรักแบบโรแมนติกและให้ความสำคัญกับมิตรภาพ ความรักของเจ้าชะตามักจะเป็นไปในลักษณะของความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรและเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม หากดาวศุกร์ได้รับผลกระทบในทางลบ อาจทำให้เจ้าชะตาประสบปัญหาในความสัมพันธ์หรือมีความรู้สึกไม่มั่นคงในความรักได้ 

สรุปแล้ว ตำแหน่งของดาวศุกร์ในราศีมังกรและราศีกุมภ์มีอิทธิพลต่อวิธีการแสดงออกและรับรู้ความรักของเจ้าชะตาแตกต่างกันไป โดยราศีมังกรเน้นความมั่นคงและความรับผิดชอบ ส่วนราศีกุมภ์เน้นความเป็นอิสระและมิตรภาพ

ดาวศุกร์ (๖) เป็นดาวที่มีอิทธิพลต่อความรัก ความสวยงาม ศิลปะ และการเงิน เมื่อสถิตในราศีต่าง ๆ จะส่งผลต่อบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของเจ้าชะตาแตกต่างกันไป ดังนี้:​

ดาวศุกร์ (๖) สถิตราศีกรกฎ (ธาตุน้ำ): ดาวศุกร์ในราศีกรกฎได้ตำแหน่งราชาโชค ส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นคนรักบ้านและครอบครัว มีความสามารถในการตกแต่งบ้านเรือน และมีความรู้ทางคหกรรม นอกจากนี้ ยังมีอัธยาศัยไมตรีดี เป็นที่รักของคนรอบข้าง และมักได้รับความนิยมจากคนหมู่มาก  

ดาวศุกร์ (๖) สถิตราศีสิงห์ (ธาตุไฟ): ดาวศุกร์ในราศีสิงห์ทำให้เจ้าชะตาชอบการแต่งตัวหรูหรา มีความมั่นใจในตนเองสูง และมีความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม ควรระวังการใช้จ่ายที่เกินตัวและความฟุ่มเฟือยที่อาจนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในอนาคต 

ในโหราศาสตร์ไทย มีคำกลอนที่ว่า "ศุกร์สามเจริญลัคน์ ยศยิ่งพระยาแฮ" ซึ่งหมายถึง หากดาวศุกร์ (๖) สถิตในภพที่ ๓ จากลัคนา หรืออยู่ในภพที่ ๓ จากดาวอาทิตย์ (๑) และอยู่ในตำแหน่งที่มีกำลัง (เช่น เป็นศุภเคราะห์) จะส่งผลดีอย่างมากต่อเจ้าชะตา ทำให้เจ้าชะตามียศศักดิ์และตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ​

นอกจากนี้ ตำแหน่งของดาวศุกร์ (๖) ในดวงชะตายังมีความสำคัญ เช่น หากดาวศุกร์ (๖) สถิตในราศีมีน จะได้ตำแหน่งเป็นอุจจ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เด่นที่สุด ส่งผลให้เจ้าชะตามีทรัพย์สมบัติ ความรู้ คุณธรรมจริยธรรม และกิริยาสุภาพ  

๙.  หากดาวศุกร์ (๖) สถิตในภพที่ ๗ จากลัคนา ซึ่งเป็นภพปัตนิ (คู่ครอง) จะถือว่าเป็นพินทุบาทว์ ส่งผลให้เจ้าชะตาประสบปัญหาเกี่ยวกับคู่ครอง เช่น คู่ไม่ซื่อสัตย์ หรือเกิดการพลัดพรากจากคู่ ​

ในโหราศาสตร์ไทย มีคำกล่าวว่า "ศุกร์ (๖) เจ็ดอาจารย์เจ้าว่า ร้อนนิรันดร์" ซึ่งหมายถึงเมื่อดาวศุกร์ (๖) สถิตในภพที่ ๗ (ปัตนิ) จะส่งผลให้เจ้าชะตาประสบปัญหาในเรื่องคู่ครอง หุ้นส่วน หรือคู่สัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเจ้าชะตาเกิดวันศุกร์ จะถือว่าเป็น "พินทุบาทว์" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่เป็นมงคล ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากและความไม่สงบในชีวิตคู่​

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:

  • ความสัมพันธ์คู่ครอง: อาจประสบปัญหาในการหาคู่ครอง หรือมีคู่ครองที่ไม่ซื่อสัตย์ ความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความหึงหวง และอาจนำไปสู่การพลัดพรากหรือเลิกรา​
  • หุ้นส่วนและคู่สัญญา: ความร่วมมือทางธุรกิจอาจไม่ราบรื่น เกิดความขัดแย้งหรือปัญหาที่ไม่คาดคิด ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงิน​
  • การลงทุนในหุ้น: มีแนวโน้มที่จะประสบความสูญเสียมากกว่าผลกำไร ควรระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน​

ดังนั้น ผู้ที่มีดาวศุกร์ (๖) สถิตในภพที่ ๗ ควรระวังและพิจารณาอย่างรอบคอบในเรื่องความรัก หุ้นส่วน และการลงทุน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

๑๐. ในโหราศาสตร์ไทย การที่ดาวอาทิตย์ (๑) และดาวศุกร์ (๖) สถิตอยู่ร่วมราศีกัน ถือเป็น "คู่สมพล" ซึ่งหมายถึงการเสริมพลังซึ่งกันและกัน ดาวอาทิตย์แทนความหมายของยศศักดิ์ เกียรติยศ และความเป็นผู้นำ ส่วนดาวศุกร์แทนความรัก ความงาม และทรัพย์สมบัติ เมื่อทั้งสองดาวอยู่ร่วมกัน จะส่งผลให้เจ้าชะตามีบุคลิกที่สมดุลระหว่างความเข้มแข็งและความอ่อนโยน​ 

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:

  • อารมณ์และความรัก: เจ้าชะตาอาจมีอารมณ์ทางเพศและความรักที่รุนแรง แต่ด้วยอิทธิพลของดาวอาทิตย์ จะทำให้สามารถควบคุมตนเอง ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณี และรักษาความเหมาะสมในความสัมพันธ์​
  • การเงินและการใช้จ่าย: ด้วยอิทธิพลของดาวศุกร์ เจ้าชะตามักมีความสามารถในการจัดการการเงิน รู้จักใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ไม่ฟุ่มเฟือย และเลือกคบหากับบุคคลที่ไม่ทำให้ตนเองเสียหายทางการเงิน​
  • การงาน: เจ้าชะตามักชื่นชอบงานที่ไม่หนักเกินไป เช่น งานราชการหรืองานบริษัทที่มีความมั่นคง แม้รายได้จะไม่สูงมาก แต่ก็ยอมรับได้หากงานนั้นสบายและไม่กดดัน

๑๑.  การที่ดาวพุธ (๔) และดาวศุกร์ (๖) สถิตอยู่ร่วมราศีกัน ถือเป็น "คู่ธาตุน้ำ" ซึ่งมีคำกล่าวว่า "พุธศุกร์อีกคู่อย่าดูเบา มักมากเมาเสพสมจนซมซาน" หมายความว่าเจ้าชะตาอาจมีความต้องการทางกามารมณ์สูง และมีแนวโน้มที่จะเสพสุขอย่างไม่รู้จักพอ   หากดาวพุธและดาวศุกร์สถิตอยู่ในราศีที่มีดาวเกษตรหรือดาวเจ้าเรือน เช่น ราศีพฤษภ (ดาวศุกร์เป็นเกษตร) หรือราศีเมถุน (ดาวพุธเป็นเกษตร) อิทธิพลของดาวทั้งสองจะยิ่งส่งผลให้เจ้าชะตามีความต้องการทางเพศสูงขึ้น และอาจขาดความรอบคอบในเรื่องความรัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในความสัมพันธ์และการหย่าร้างได้ในภายหลัง

๑๒. มีคำกลอนที่ว่า "ศุกร์ราหูหรือจันทร์กับศุกรา… มักเคล้าคู่โจราระวังภัย" ซึ่งหมายถึงการที่ดาวศุกร์ (๖) ร่วมกับดาวราหู (๘) หรือดาวจันทร์ (๒) ร่วมกับดาวศุกร์ (๖) ในดวงชะตา โดยเฉพาะเมื่อดาวศุกร์หรือดาวจันทร์เป็นเจ้าเรือนปัตนิหรือสถิตอยู่ในเรือนปัตนิ ตำแหน่งดังกล่าวนี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เปิดเผย การลักลอบคบหากันก่อนการแต่งงาน หรือการฝ่าฝืนประเพณีนิยม อาจนำไปสู่ปัญหาและภัยต่าง ๆ ในชีวิตคู่​

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าหากอยู่ร่วมกันอย่างลับ ๆ จะมีความสุขมากกว่าอยู่ร่วมกันอย่างเปิดเผย เพราะเมื่อเปิดเผยแล้ว อาจเกิดปัญหาในเรื่องการเงินหรือความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การแยกทางกันในที่สุด

#สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ตามระบบธาตุและเรือนชาตา ตามหลักของท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(ุอุตรภัทร์) อาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย นำหลักเคล็ดลับการพยากรณ์ตามหลักระบบธาตุของอาจารย์บรรเทา มาใช้ในการวิเคราะห์ทั้งในดวงชาตาเดิม และดวงชาตาจร ทำให้การพยากรณ์ดวงชาตาเกิดความแม่นยำมากในการพยากรณ์ดวงชาตาเดิมและการพยากรณ์ดวงชาตาจร การเชื่อมโยงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจรทำให้คำพยากรณ์ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมทั่งสอนในการนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไทยไปใช้ในการให้ฤกษ์อีกด้วย เป็นหลักสูตรเดียวที่เรียนครบทั้งการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม การเชื่อมโนงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจร รวมทั้งการให้ฤกษ์ต่าง ๆ

อาจารย์จะเปิดสอนรุ่นที่ ๑๗ เริ่มเรียนครั้งที่ ๑ วันอาทิตย์ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เรียนจำนวน ๑๐ อาทิตย์ หลังจากจบการสอนในแต่ละสัปดาห์ผู้เรียนจะได้รับบันทึกการสอน(vdo)และเอกสารประกอบการสอนทางอีเมล์ เพื่อใช้ทบทวนการเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ดีอย่างเป็นระบบ สนใจสมัครเรียนรุ่นนี้ให้อินบ๊อก : m.me/arjarnth

Read more

เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษ ของดาวพฤหัส(๕)  ตามหลักโหราจารย์ไทย ดาวพฤหัส(๕) เป็นหัวหน้าดาวฝ่ายศุภเคราะห์ ตามหลักดาราศาสตร์เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ฉะนั้น เมื่อดาวพฤหัส(๕)ไปสถิตในเรือนชาตาใด จะมีผลเป็นอย่างมากในเรือนชาตานั้น ๆ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบคุณภาพของดาวพฤหัส(๕) ในดวงนวางค์จักรด้

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการคํานวณเอาไว้ แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถึงการเดิน แบบผิดปกติ

เกิดอะไรขึ้นกับดวงเมืองไทย เมื่อดาวราหู(๘)ย้ายราศี เป็นกรณีศึกษาตามระบบธาตุและเรือนชาตา

เกิดอะไรขึ้นกับดวงเมืองไทย เมื่อดาวราหู(๘)ย้ายราศี เป็นกรณีศึกษาตามระบบธาตุและเรือนชาตา

การพยากรณ์ตามหลักตรีวัย ตั้งแต่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ - ๒๕๗๕ ตรีวัยลาภะ(โชคลาภ รายได้ที่เกิดจากผลของนโยบาย เช่น ภาษี การค้า การส่งออก)(๘) จรสถิตวัยกัมมะ หมายถึงรัฐบาล  ซึ่งเป็นตัวแทนของปวงชน ผู้ใช้อำนาจในการบริหารประเทศ โดยมีนโยบายในการ บริหารประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางด้านเศรษฐกิจ การเงิ

ดาวราหู(๘)เล็งลัคนากับทับลัคน์ ต่างกันอย่างไร

ดาวราหู(๘)เล็งลัคนากับทับลัคน์ ต่างกันอย่างไร

เจ้าชาตามีลัคนาสถิตราศีกันย์  มีดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ สถิตราศีมีนเล็งลัคนา กับดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ ทับลัคนา  จะให้ผลต่างกันอย่างไร  ในการวิเคราะห์ดวงชาตามี ๒ ขั้นตอน คือการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม และการวิเคราะห์ดวงชาตาจร  บทความนี้เน้นเฉพาะการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิมเท่