เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษ ของดาวพฤหัส(๕)  ตามหลักโหราจารย์ไทย

ดาวพฤหัส(๕) เป็นหัวหน้าดาวฝ่ายศุภเคราะห์ ตามหลักดาราศาสตร์เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ฉะนั้น เมื่อดาวพฤหัส(๕)ไปสถิตในเรือนชาตาใด จะมีผลเป็นอย่างมากในเรือนชาตานั้น ๆ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบคุณภาพของดาวพฤหัส(๕) ในดวงนวางค์จักรด้วย หากดูเฉพาะในดวงราศีจักรแล้วโอกาสที่จะทำนายผิดพลาดจากหน้ามือเป็นหลังมือได้มาก ดวงนวางค์จักรจึงมีความสำคัญในการตรวจสอบคุณภาพของดาวแต่ละดวงเปรียบเสมือนเครื่องเอ็กซเรย์ (X-Ray) เจ้าชาตาที่มีดาวพฤหัส(๕) เด่นและถึงลัคนาทั้งในดวงราศีจักร์และดวงนวางค์จักร์ จะเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีสติปัญญาดี สามารถศึกษาและเรียนรู้อะไรได้เร็ว มีอุปนิสัยรักการเรียน มีความอดทนที่จะศึกษาหาความรู้จากตำราได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ จะเป็นชอบศึกษาเล่าเรียนหาความรู้อยู่ตลอดเวลา มิใช่เฉพาะในวัยเรียนเท่านั้น แต่จะเป็นคนที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

ดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งถือเป็น บรมครูแห่งเทวา และ “ดาวคุณธรรม ความรู้ ความโชคลาภ ความเจริญ” ในโหราศาสตร์ไทยนั้น เมื่ออยู่ในตำแหน่งพิเศษบางประการ จะ ให้คุณเด่นเป็นพิเศษ โดยเกณฑ์ที่ใช้วินิจฉัยว่า “ดาวพฤหัส (๕) ได้เกณฑ์พิเศษ” มีหลายแนว ได้แก่ เกณฑ์ตามตำแหน่งในราศี, เกณฑ์ตามเรือนชะตา, เกณฑ์โยคสัมพันธ์, และ เกณฑ์ตามคำพยากรณ์โบราณ

ความหมายพิเศษของ ดาวพฤหัส (๕) โดยสังเขป

  ๑. ดาวแห่ง “พุทธจริต” – ตัวแทนของปัญญาและความรู้

  • เป็นดาวที่แทนคุณสมบัติของ ผู้รู้ ผู้มีศีล ผู้มีธรรม
  • เป็นตัวแทนของ ศาสนา ปรัชญา ความเชื่อ ความศรัทธา
  • ดาวพฤหัส (๕) เด่น → เจ้าชะตา ฉลาด มีสติ มีเหตุผล มีวิจารณญาณ

  ๒. เป็นดาวของ “บรมครู” และ “ครูผู้ให้”

  • โบราณถือว่าเป็น “ดาวครู” → ผู้ใดมีพฤหัส (๕) เด่นในดวงชะตา มัก เป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
  • เป็นผู้อุปถัมภ์-ให้คำปรึกษาแก่ผู้อื่น → จึงมักมี ศิษย์ มีคนยกย่องนับถือ

  ๓. ดาวแห่งวาสนา โชคลาภ ความเจริญ

  • เป็นดาวศุภเคราะห์หลัก – ให้โชค ให้ทรัพย์ ให้ความก้าวหน้า
  • พฤหัส (๕) เด่นในเรือน กัมมะ ลาภะ ศุภะ → เจ้าชะตามักประสบความสำเร็จ เจริญเติบโตอย่างมั่นคง
  • เป็นดาว “ขยาย” → หากโยคกับดาวดี จะ ขยายผลของดาวนั้นให้กว้างและมั่นคง

  ๔. ดาวที่มี “อำนาจคุ้มครอง” และ “เทพพิทักษ์”

  • พฤหัส (๕) เป็นดาวที่ คุ้มภัยได้ ถ้าสถิตในตำแหน่งดี → เจ้าชะตาจะ ปลอดภัยจากภยันตราย
  • มักมี “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หรือ “บุญเก่า” คุ้มครองอยู่เสมอ
  • มักพบว่าเจ้าชะตามี “บุญบารมีแฝง” หรือ “ผู้ใหญ่เกื้อหนุน” ในจังหวะสำคัญของชีวิต

  ๕. ดาวพฤหัสสัมพันธ์กับธรรมะและศีลธรรม

  • ถ้าเด่น → จะเป็น คนที่ยึดหลักธรรม มีคุณธรรม ไม่คดโกง
  • ถ้าเสื่อม → จะ กลายเป็นผู้ลบหลู่ศีลธรรม ใช้ความรู้ในทางผิด

 ๖. ดาวแห่งการศึกษา การเรียนรู้

  • เจ้าชะตาที่มีพฤหัส (๕) เด่น มัก เรียนเก่ง ชอบอ่านหนังสือ ศึกษาธรรมะ หรือแสวงหาความรู้
  • มักได้วุฒิการศึกษาสูง หรือกลายเป็นผู้มีความรู้เฉพาะทาง เช่น นักกฎหมาย นักวิชาการ แพทย์ นักโหราศาสตร์

เกณฑ์พิเศษ ของดาวพฤหัส(๕)  ตามหลักโหราจารย์ไทย

๑.  ดาวพฤหัส(๕) ได้เกณฑ์พิเศษตามหลักโหราจารย์ไทย

๑.๑.  ดาวพฤหัส(๕) ได้องค์เกณฑ์ประเภทนระราศี  ดาวพฤหัสเป็น ๑, ๕, ๗  เป็น ๑  กับลัคนา ทับลัคนาหรือทับดาวเจ้าเรือนตนุลัคนา ทำให้ดาวอาทิตย์(๑) ดาวพฤหัส(๕)  หรือดาวเสาร์(๗) ได้องค์เกณฑ์ตามราศีประเภทนระราศี ตามคำประพันธ์ที่ว่า

 “นะระสุริยะเยื้อง       รังสี

โสระชีวะโดยมี         ถูกต้อง

สามองค์เทพโสภี      กุมลัคน์

ดวงชะตาใดดั่งพร้อง  ยศนั้นนาพัน”

ความหมายหากมีลัคนาสถิตราศีประเภทนระราศี  คือ บุคคลผู้มีลัคนาใน ๕ ราศีคือ เมถุน กันย์ ธนู กุมภ์ ตุลย์ แล้วมีดาวเคราะห์ ดาวอาทิตย์(๑)หรือดาวพฤหัส(๕)หรือดาวเสาร์(๗) ดาวใดดวงหนึ่งองค์หนึ่ง กุมลัคนา(เป็นหนึ่ง=เอกะ) ได้ชื่อว่า ดาวเคราะห์ดวงนั้นเป็นองค์เกณฑ์ราศีนระเกณฑ์เรือนใน  หากดาวอาทิตย์(๑)หรือดาวพฤหัส(๕)หรือดาวเสาร์(๗) องค์ใดองค์หนึ่งกุมดาวเจ้าเรือนตนุลัคนา ดาวดวงนั้น ได้นระเกณฑ์เรือนนอก  ทำให้เจ้าชาตามีมาตรฐานชีวิตดีกว่าชาติตระกูลเดิม มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ในหน่วยงานที่รับผิดชอบ   

๑.๒. ดาวพฤหัส(๕) อุดมเกณฑ์ ประเภทนระราศี   ตามคำประพันธ์ที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวไว้ว่า 

“นระคือโสโร   วุโธคือชีโวศุโกรเล่า

สหัชช์ตนุพันธุเคล้า เอาปัตนิและลาภา”

ความหมาย หากลัคนาอยู่ในราศีเกณฑ์นระ คือ ราศีมิถุน กันย์ ตุลย์ ธนู กุมภ์ และมีดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัส(๕) ดาวศุกร์(๖) ดาวเสาร์(๗) ดวงใดดวงหนึ่ง อยู่ในภพสหัชชะ ตนุ พันธุ ปัตนิ ลาภะ  ดาวดวงนั้น จะได้อุดมเกณฑ์ ประเภทนระราศี 

อุดมเกณฑ์ คือ ดาวเคราะห์ตามลัคนาในราศีบังคับเช่นเดียวกับองค์เกณฑ์ แต่เรียกชื่อเป็นอุดมนำหน้า  คำว่าอุดมเกณฑ์  แปลตามศัพท์ว่า ดีมาก หรือสุขสบาย  สวยงาม .แต่ละเกณฑ์ ล้วนกล่าวถึงยศศักดิ์ ความเป็นอยู่ เหนือชาตตระกูลเดิม  อุดมเกณฑ์ อนึ่งพระเคราะห์ที่ได้อุดมเกณฑ์ ท่านว่าเจ้าชะตา จะมิรู้จักเข็ญใจเลย ถ้าไพร่จะได้เป็นนาย   ท่านว่า อุดมเกณฑ์ บ่งถึงความอุดมสมบูรณ์ของโภคทรัพย์

๑.๓. ดาวพฤหัส(๕) ได้กมุทเกณฑ์ ดาวพฤหัส(๕) กุมลัคนา ได้ตำแหน่งกมุทเกณฑ์ บูรพาจารย์ท่านสรรเสริญว่า "กมุทเกณฑ์" นี้  มีลักษณะเหมือนดั่งดอกบัวบานที่มีกลิ่นหอม บุคคลใดที่ได้เกณฑ์ดอกบัวขาวนี้ จะมีความปรีชาสามารถยิ่งนัก เจริญด้วยสติปัญญา รอบรู้สรรพคัมภีร์ ตั้งตนอยู่ในคุณสมบัติของผู้ดี มีสติระลึกรู้ผิดชอบชั่วดี อยู่ในครรลองคลองธรรม คนทั่วไปจะเคารพนับถือบูชา และเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้หลักผู้ใหญ่ ตลอดจนคนสูงอายุ พระสงฆ์องค์เจ้า ชีวิตมักประสบแต่ความโชคดี เจริญสุขวัฒนา แคล้วคลาดจากอุปัทวันตรายทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งกมุทเกณฑ์นี้ เป็นเกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัสบดี(๕) กล่าวคือ ถ้าดวงชะตาใด มีดาวพฤหัสบดี(๕) สถิตอยู่เป็น 1 แก่ลัคนา หรือ สถิตร่วมลัคนาราศีเดียวกัน เราเรียกดาวพฤหัสบดี ได้ "กมุทเกณฑ์"   

"กมุทเกณฑ์" ที่แท้จริง และให้คุณหนุนนำดวงชะตาประเสริฐแท้ จักต้องมีดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ลัคนาสถิต หรือ ตนุลัคน์ ร่วมราศีด้วย  ก็จักดีมากเป็นพิเศษ และถ้าดาวพฤหัสบดี(๕) สถิตอยู่ในราศีที่ดี อันมีมาตรฐานเข้มแข็ง เช่น เป็นอุจจ์ เกษตร มหาจักร ราชาโชค หรือ เพ็ญบนท้องฟ้า ถือว่าให้คุณมากเป็นพิเศษยิ่งขึ้น  ประกอบกับมีดาวพระเคราะห์คู่มิตร คู่ธาตุ คู่ฤกษ์ คู่สมพล หรือ กลุ่มดาวศุภเคราะห์ที่มีกำลังเข้าสถิตร่วมด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มพูนความแข็งของกมุทเกณฑ์เข้าไปใหญ่ เสมือนคอนกรีตเสริมเหล็ก แล้วเอายางมะตอยราดซ้ำไปอีกชั้น แข็งโป๊ก ถึงแม้ดาวพฤหัสบดี(๕) ที่ได้กมุทเกณฑ์นี้ จะมีมาตรฐาน เป็นนิจ เป็นประ เป็นกาลี มาจากเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศ ก็ย่อมให้คุณหนุนนำแก่ดวงชะตาดี จะพยากรณ์เสียมิได้เลย

๑.๔. ดาวพฤหัส(๕) ได้จันทร์เกณฑ์ คำว่า "ได้จันทร์เกณฑ์" ในโหราศาสตร์ไทย หมายถึง ดาวพฤหัสบดี (๕) มีตำแหน่ง สัมพันธ์กับดาวจันทร์ (๒) โดยสัมพันธ์กันในลักษณะ:  ร่วมราศี / เล็งกัน / โยคตรีโกณ (มุม ๑–๕–๙)  ซึ่งการที่พฤหัส (๕) และจันทร์ (๒) มีความสัมพันธ์กันในรูปแบบนี้ จะ ส่งผลดีอย่างยิ่ง ต่อเจ้าชะตา โดยเฉพาะในด้าน สติปัญญา ความเมตตา ความสงบเย็น ความเจริญทางจิตวิญญาณ และ การเข้าถึงธรรมะ

  ความหมายของ “จันทร์เกณฑ์”

พฤหัส (๕) เป็นดาวแห่ง ปัญญา ความรู้ ความเชื่อ ความศรัทธา ศีลธรรม และครูบาอาจารย์ จันทร์ (๒) เป็นดาวแห่ง อารมณ์ ความรู้สึก เมตตา ความอ่อนโยน แม่ และประชาชน

เมื่อสองดวงนี้ “สัมพันธภาพดีต่อกัน” → จะรวมพลังของ “สติปัญญา” + “เมตตาอ่อนโยน” → ให้ผลตามนี้:  

  ผลที่เกิดจากการได้จันทร์เกณฑ์:

  1. เป็นผู้มีจิตใจดี มีเมตตาสูง
  2. ฉลาด รู้เท่าทันโลก แต่ไม่หยิ่ง → มีความนุ่มนวล มีวาทศิลป์ เป็นที่รักของคนทั่วไป
  3. ได้รับการยอมรับจากมวลชน → เหมาะกับการเป็นผู้นำที่มีจริยธรรม
  4. เข้าถึงศีลธรรมและธรรมะได้ง่าย → หากศึกษาธรรมะจะลึกซึ้งจริง
  5. ได้รับอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่ หรือมวลชนรักใคร่
  6. หากเป็น “หมอดู ครูบาอาจารย์ นักเทศน์” → จะโด่งดังและมีศิษย์มาก
  7. มีชื่อเสียงจากความอ่อนโยนและปัญญา มากกว่าความเก่งแบบดุดัน

ข้อสังเกต :  หากพฤหัส (๕) หรือจันทร์ (๒) อยู่ใน นิจ / ภพวินาสน์ / ถูกบาปเคราะห์ทำมุมร้าย  คุณของจันทร์เกณฑ์จะลดลง

หากอยู่ใน เรือนที่เกื้อหนุนกัน เช่น ศุภะ, ลาภะ, กัมมะ → จะยิ่งให้ผลดีโดดเด่นมาก   หากจันทร์ (๒) และพฤหัส (๕) โยคกันทั้งในราศีจักรและนวางค์จักร   จะยิ่งเสริมกันแรงมากขึ้นอีก

๑.๔  ดาวพฤหัส(๕) ได้องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา การที่ ดาวพฤหัสบดี (๕) ได้ “องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา” หมายถึง ดาวพฤหัส (๕) สถิตอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับลัคนาในรูปแบบ:  เป็น ๑, ๔, ๗ หรือ ๑๐ จากลัคนา จากเจ้าเรือนตนุลัคนาและจากดาวจันทร์(๒) ตำแหน่งเหล่านี้เรียกว่า “องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา” ซึ่งถือเป็น จุดเด่นในเชิงความสามารถ อิทธิพล และคุณธรรม ของดาวเคราะห์นั้น ๆ ในชีวิตของเจ้าชะตา

  ความหมายของ “ดาวพฤหัส (๕) ได้องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา” เมื่อดาวพฤหัส (๕) ซึ่งเป็นดาว พุทธจริต (ดาวแห่งสติปัญญา ปัญญาชน ความดีงาม และศาสนา) ได้องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา → จะ ขยายคุณลักษณะดีของพฤหัสออกมาอย่างชัดเจน

  คำพยากรณ์ดาวพฤหัส (๕) เมื่อได้องค์เกณฑ์

  1. เป็นผู้มีวุฒิภาวะทางความคิด — สุขุม รอบคอบ ไม่วู่วาม
  2. มีสติปัญญาเฉียบแหลม — คิดวิเคราะห์เป็น เห็นทางออกชัดเจน
  3. เป็นที่เคารพของผู้อื่น — มีบารมีเงียบ ๆ ผู้คนให้เกียรติ ไม่ต้องอวด
  4. มีผิวพรรณผ่องใส นุ่มนวล มีเสน่ห์สงบ — เสน่ห์จากบุคลิกภาพที่มั่นคงและจริงใจ
  5. เป็นผู้มีจรรยาบรรณสูง ไม่เอาเปรียบใคร — ยึดมั่นในความดี ความเที่ยงธรรม
  6. มักพอใจในชีวิตของตนเอง ไม่อิจฉาผู้อื่น — ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้ชีวิตเรียบง่าย
  7. มั่นคงในศีลธรรม คุณธรรม ศาสนา — หากศึกษาธรรมะจะเข้าถึงได้ลึกซึ้ง
  8. มีความอดทน ฟันฝ่าอุปสรรคได้ดี — ไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก
  9. ขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน — ได้ดีเพราะความสามารถและความเพียร
  10. เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม — ชีวิตจริงอาจเป็นครู อาจารย์ นักเทศน์ นักปกครอง หรือผู้นำทางจริยธรรม

  หากพฤหัส (๕) ได้องค์เกณฑ์ และ...

กรณีเสริม

ผลที่เพิ่มเติม

อยู่ในภพศุภะ, กัมมะ, ลาภะ

ยิ่งเสริมความมั่นคงในชีวิต การงานรุ่งเรือง มีวาสนา ของเจ้าชาตา

ร่วมโยคกับจันทร์ (๒)

ได้ จันทร์เกณฑ์  ทำให้เจ้าชาตาเป็นคนที่เมตตา  มีปัญญา โดดเด่น

อยู่ในเกษตร/อุจจ์/มหาจักร

ทำให้เจ้าชาตาเป็นผู้มี “ธรรมะพร้อมทั้งบุญญาบารมี”

อยู่ในนวางค์ของดาวศุภเคราะห์ เช่น ศุกร์ (๖), พุธ (๔)

มีความอ่อนโยน น่าเคารพยิ่งขึ้น

  สรุปสั้น ๆ   “พฤหัส (๕) ได้องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา” หมายถึง บัณฑิตผู้มีเมตตา ขยัน มั่นคง ซื่อสัตย์ และเป็นที่ยอมรับโดยธรรมชาติ   เหมาะกับบทบาท ครู, นักกฎหมาย, นักปกครอง, ผู้นำทางจิตวิญญาณ หรือที่ปรึกษาทางคุณธรรม  จริยธรรม

 ๒.  ดาวพฤหัสบดี (๕) ซึ่งเป็น “ดาวครู” ในโหราศาสตร์ไทยนั้น มี เกณฑ์พิเศษ ที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงแค่:  องค์เกณฑ์, อุดมเกณฑ์, จันทร์เกณฑ์, องค์เกณฑ์ตามเรือนชาตา เท่านั้น แต่ยังมี “เกณฑ์พิเศษอื่น ๆ” ที่โหราจารย์ไทยโบราณใช้พิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้ดาวพฤหัส (๕) กลายเป็น “ดาวครูแท้” ที่มีคุณธรรม ปัญญา และบุญบารมีเด่นมาก

 

๒.๑. ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งเกษตร .ดาวพฤหัสเป็นเกษตร จะมีวาสนาดีในเรื่องของการศึกษาหาความรู้ เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเหมาะสมอย่างยิ่งในการค้นคว้าจากตำรา แต่หนักไปทางทฤษฎีมากกว่าทางปฏิบัติ เข้าถึงธรรมะ หรือเรียนรู้ในเรื่องศาสนาได้ง่าย มีความสุขุมรอบครอบ ดาวพฤหัส คือ ตัวสติ เป็นคนคงแก่เรียน รักความยุติธรรม มีทรัพย์ ดาวพฤหัสเปรียบเสมือนผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสมากๆ ชอบความสงบ มีความเกรงกลัวต่อบาป มีศีลธรรม มีความสำเร็จ มีโชคลาภ มีความอุดมสมบูรณ์ ดาวพฤหัสเด่น ก็ช่วยใช้มีการศึกษาเล่าเรียนดีราบรื่น แต่ก็มีสติมากไปจนบางครั้งดูไม่เฉียบแหลม การแก้ปัญหาจึงช้ากว่าพวกดาวพุธเด่น

๒.๑.๑ ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู ราศีธนูเป็นราศีธาตุไฟ แต่เป็นราศีปลายธาตุไฟ หมายถึงไฟที่มอดเชื้อแล้วหรือใกล้ ๆ จะมอดเชื้อ เช่นไฟในเตาที่เลิกหุงข้าวแล้ว หรือไฟป่าที่กำลังโทรมมอดดับ ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวธาตุดิน อยู่ในราศีธนู เป็นราศีธาตุไฟ เป็นธาตุชั้น ๓ ธาตุที่เป็นกลางต่อกัน ดาวเคราะห์ที่เป็นกลางต่อกันย่อมไม่ให้คุณและไม่ให้โทษต่อกัน ตลอดถึงพร้อมที่จะให้คุณและให้โทษต่อกันได้ทันที คือดาวเคราะห์ที่เป็นคู่มิตรกันโดยธรรมชาติ หากสถิตอยู่ในราศีที่เป็นกลางต่อกันก็ย่อมให้คุณ และตรงกันข้ามดาวเคราะห์ที่เป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติเมื่อมาอยู่ในราศีที่เป็นกลางก็ย่อมจะให้โทษ และเมื่อดาวเคราะห์นั้น โคจรมาถึงลัคนาในทางทับ เล็ง โยค และตรีโกณกับลัคนา ก็ย่อมจะเป็นมิตร เป็นศัตรูและเป็นกลางตามกันไปด้วย

๒.๑.๒ ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งเกษตรในราศีมีน ราศีมีนเป็นราศีธาตุน้ำ เป็นปลายธาตุน้ำ หมายถึงน้ำในลำคลอง ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวธาตุดิน อยู่ในราศีมีนซี่งเป็นราศีธาตุน้ำ เป็นธาตุชั้น ๒ เป็นธาตุคู่มิตร ธาตุที่เป็นคู่มิตรแก่กันย่อมให้คุณแก่กันมาก หากดาวเคราะห์ในดวงชาตากำเนิดสถิตอยู่ในราศีธาตุที่เป็นมิตรกันย่อมให้คุณแก่กัน

   ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ดาวพฤหัส(๕) ในราศีมีนซึ่งเป็นราศีคู่มิตรกับดาวพฤหัส(๕) ย่อมให้คุณแก่เจ้าชาตามากกว่าดาวพฤหัส(๕) ในราศีธนูซึ่งเป็นราศีธาตุที่เป็น กลางกับดาวพฤหัส ซึ่งอาจจะให้คุณหรือให้โทษก็ได้ ก็ต้องตรวจสอบว่าดาวคู่มิตร คือดาวอาทิตย์(๑) ส่งกำลังถึงดาวพฤหัส(๕)หรือไม่ หากส่งกำลังถึงก็จะให้คุณมาก หากส่งกำลังไม่ถึงก็ให้คุณลดลงมา การให้คุณก็จะให้คุณตามคุณภาพของดาวและเจ้าเรือนชาตาในดวงชาตาเดิมว่าเป็นดาวเจ้าเรือนอะไร ก็จะให้คุณตามเรือนชาตานั้น ๆ


สรุปคำพยากรณ์ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่งเกษตร แยกตามราศี

  ๒.๑.๑. พฤหัส (๕) เกษตรในราศีธนู (ธาตุไฟ – ธาตุชั้น ๓ ธาตุเป็นกลาง)

  • พฤหัสเป็นดาวธาตุดิน → อยู่ในราศีธาตุไฟ (ธาตุชั้น ๓) = ธาตุเป็น กลาง
  • ราศีธนู เป็น ราศีปลายธาตุไฟ เปรียบเหมือนไฟใกล้มอด → จึงให้คุณในลักษณะ สุขุมเยือกเย็นทางความคิด ความรู้ยืดยาว
  • ดาวพฤหัสอยู่ธาตุเป็นกลาง → อาจ ให้คุณหรือให้โทษได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม (เช่น ดาวอื่นโยคถึงหรือไม่)

  คุณลักษณะพฤหัสเกษตรในธนู:

  1. มีวาสนาในเรื่องการศึกษา ความรู้สูง รักการค้นคว้า วิชาการ
  2. สุขุม รอบคอบ รักคุณธรรม ยึดมั่นในหลักศีลธรรม
  3. เหมาะกับการเป็น นักปราชญ์, อาจารย์, นักคิดทางทฤษฎี
  4. คิดเป็นระบบลึกซึ้ง แต่บางครั้ง “ช้าเกินแก้” → เพราะพิจารณามากเกินไป
  5. ถ้าดาวคู่มิตร (เช่น อาทิตย์ ๑) ส่งโยคถึง → จะ “เสริมไฟ” ให้สติปัญญาส่องสว่าง โดดเด่น

  ๒.๑.๒. พฤหัส (๕) เกษตรในราศีมีน (ธาตุน้ำ – ธาตุชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร)

  • พฤหัสธาตุดิน อยู่ในราศีมีน ธาตุน้ำ → ธาตุชั้น ๒ = ธาตุคู่มิตร
  • ราศีมีน เป็น ราศีปลายธาตุน้ำ เปรียบเหมือนน้ำในคลองไหลลึก มีอารมณ์ศิลป์ มีความเมตตา

 คุณลักษณะพฤหัสเกษตรในมีน: 

  1. สติปัญญาลึกซึ้ง เข้าถึงจิตวิญญาณ เข้าใจธรรมะได้อย่างลึกซึ้ง
  2. เมตตา อ่อนโยน เป็นคนมีสัมผัสใน หรือ “ญาณ” พอสมควร
  3. ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรง – มากกว่าทฤษฎี → เหมาะกับผู้ที่เรียนรู้จากชีวิตจริง
  4. เป็นธรรมาจารย์ หรือครูผู้สอนธรรมะได้อย่างสงบเย็น
  5. ธาตุคู่มิตร → ให้คุณได้ต่อเนื่องและมั่นคง มากกว่าราศีธนู

๒.๒.  ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งประ ในราศีเมถุน และราศีกันย์ ดวงประเกษตร จะส่งผลหนักไปในทางอาภัพ เต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางเสียก่อนเสมอ เป็นดาวเสื่อมผล หมายถึง ผลที่ดวงจะได้รับจะผันแปรหรือเกิดอุปสรรค ไม่ราบรื่น ล่าช้า ไม่สมดังความมุ่งหมาย ดาวที่ได้ตำแหน่งประเกษตรจะทำให้เจ้าชาตาเสื่อมเสีย ถูกกลั่นแกล้ง ถูกรังแก มีอุปสรรคมาก ส่วนใหญ่จะขาดคุณธรรม จะเป็นคนมีไหวพริบแบบของคนมีเหล่ห์เหลี่ยมกลโกงแบบพิศดาร จะเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรได้เร็วกว่าคนที่มีดาวพฤหัส(๕) เป็นเกษตร แต่จะเป็นคนมีความเฉียบแหลมในการแก้ปัญหา สามารถเป็นคนแก้ปัญหาได้เก่ง ข้อแตกต่างระหว่างดาวพฤหัส(๕) ที่เปํนประเกษตรในราศีเมถุนและราศีกันย์ มีดังนี้

ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งประ ในราศีเมถุน และราศีกันย์ ดวงประเกษตร จะส่งผลหนักไปในทางอาภัพ เต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางเสียก่อนเสมอ เป็นดาวเสื่อมผล หมายถึง ผลที่ดวงจะได้รับจะผันแปรหรือเกิดอุปสรรค ไม่ราบรื่น ล่าช้า ไม่สมดังความมุ่งหมาย ดาวที่ได้ตำแหน่งประเกษตรจะทำให้เจ้าชาตาเสื่อมเสีย ถูกกลั่นแกล้ง ถูกรังแก มีอุปสรรคมาก ส่วนใหญ่จะขาดคุณธรรม จะเป็นคนมีไหวพริบแบบของคนมีเหล่ห์เหลี่ยมกลโกงแบบพิศดาร จะเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรได้เร็วกว่าคนที่มีดาวพฤหัส(๕) เป็นเกษตร แต่จะเป็นคนมีความเฉียบแหลมในการแก้ปัญหา สามารถเป็นคนแก้ปัญหาได้เก่ง ข้อแตกต่างระหว่างดาวพฤหัส(๕) ที่เปํนประเกษตรในราศีเมถุนและราศีกันย์ มีดังนี้ ดา

๒.๒.๑ ดาวพฤหัส(๕) เป็นประเกษตรในราศีเมถุนซึ่งมีดาวพุธ(๔) เป็นดาว

 เจ้าเรือน ซึ่งเป็นดาวที่แสดงความเฉียบแหลมในด้านความคิดและคำพูด มีสติปัญญาในทางโลก ฉะนั้น ดาวพฤหัส(๕) ที่เป็นประเกษตรในราศีเมถุน จึงมีปัญญาในแบบฉบับของนักแก้ปัญหา หากดาวพฤหัส(๕) ในราศีเมถุนถึงลัคนาแล้ว จะทำให้เจ้าชาตาเป็นคนมีสติปัญญาดี มีความเฉียบแหลมในด้านการเรียนรู้ ดาวพฤหัส(๕) ในตำแหน่งนี้ ในด้านการทำงานจะใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้อย่างลงตัว สามารถเป็นนักบริหารที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในส่วนลึกของจิตใจของเจ้าชาตา จะเป็นคนที่คิดถึงประโยชน์ที่จะได้รับเป็นสำคัญ เจ้าชาตาจะต้องได้รับชัยชนะหรือได้กำไร เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ ทั้งนี้ชัยชนะหรือกำไรที่ได้มาจะไม่คำนึงถึงคุณธรรมหรือศีลธรรมใด ๆ ขอให้ตนเองเป็นผู้ชนะก็พอใจแล้ว คนที่ดาวพฤหัส(๕) อยู่ในราศีเมถุน จะเป็นคนประเภทชีวิตต้องสู้ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมและมโนธรรม เป็นคนประเภททำอะไรแล้ว ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องใช้คาถา อีกประการหนึ่ง คนที่ดาวพฤหัส(๕) อยู่ในตำแหน่งในราศีเมถุน ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าสติปัญญาไม่ดี เรียนไม่เก่ง แต่จากสถิติจะพบว่า ดางชาตาที่ดาวพฤหัส(๕) เป็นประเกษตรในราศีเมถุน จะเป็นคนมีสติปัญญาดีมาก มีความสามารถเรียนได้สูง ด้านการทำงานก็เป็นคนที่มีความฉลาดในการแก้ปัญหา แถมมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร ในด้านมนุษยสัมพันธ์มักจะเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ ถ้าจะเอาแพ้ชนะกันแล้ว จะใช้ทุกวิถีทางที่จะใหัตนเองชนะ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมหรือศีลธรรม เป็นคนประเภทวิตกจริต มีความอาฆาตที่รุนแรง สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อชัยชนะ

อีกประการหนึ่ง ดาวพฤหัส(๕)ในราศีเมถุน ยังได้ตำแหน่งอุจจาวิลาส จากตำราจักรทีปนีกล่าวว่า หากดาวพฤหัส(๕) เป็นอุจจาวิลาส จะทำให้เจ้าชาตามีสติปัญญามากปราศจากโทษ สามารถเป็นนักปราชญ์ ทำราชการจะได้ตำแหน่งสูง และมักจะเป็นครู-อาจารย์ แพทย์ เภสัชกร  ชีวิตจะมีความสุขมาก มีลาภผลมาก สามารถเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้

๒.๒.๒ ดาวพฤหัส(๕) เป็นประในราศีกันย์ ซึ่งมีดาวพุธ(๔) เป็นดาวเจ้าเรือนเหมือนดาวพฤหัส(๕) ในราศีเมถุน ท่านบูรพาจารย์กล่าวว่า เป็นดาวพฤหัส(๕) สู้ครูและขาดที่พึ่ง ความหมายก็คือ เจ้าชาตาจะเป็นคนฉลาดแกมโกง มีไหวพริบเฉียบแหลมในทางการมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว บางบูรพาจารย์บอกว่า เป็นผู้มีกลโกงบันลือโลก มีความเฉลียวฉลาดมากกว่าครู จึงเรียกว่า สู้ครู คือมีความฉลาด มีสติปัญญาในการโกงแบบสุดยอดที่ครูต้องยอมแพ้ ครูส่วนใหญ่จึงไม่กล้าสั่งสอนคนประเภทนี้ จึงเป็นคนที่ไม่สามารถพึ่งพาครูได้ คนที่มีดาวพฤหัส(๕) ในราศีกันย์ จะมีประสบการณ์แบบมีเล่ห์เหลี่ยมมาก เชื่อในประสบการณ์มากกว่าตำรา อุปนิสัยไม่ชอบเป็นนักวิชาการ ไม่ชอบอะไรที่ต้องอาศัยกฏเกณฑ์และหลักเกณฑ์มาก ๆ แต่จะเป็นคนที่สามารถนำประสบการณ์ที่ผ่านมาใช้เป็นบทเรียนในการแก้ปัญหามากกว่าใช้วิชาความรู้ หากมีดาวราหู(๘) ได้ตำแหน่งที่เด่นและส่งกำลังถึงลัคนา จะเป็นนักเลงการพนันชั้นเซียนหาตัวจับยาก ในเรื่องด้านจิตใจแล้วดาวพฤหัส(๕) ในราศีกันย์ ส่วนมากจะมีเล่ห์เหลี่ยมในการพลิกแพลง แต่จะมีคุณธรรมและศีลธรรมดีกว่าดาวพฤหัส(๕) ในราศีเมถุน

สรุป ดาวพฤหัส(๕) ในราศีเมถุน จะเป็นคนที่มีสติปัญญามาก สามารถศึกษาเล่าเรืยนได้สูง ๆ เป็นส่วนใหญ่ สามารถเรียนได้จนสำเร็จปริญญาเอก แต่ควรจะปรับปรุงทางด้านคุณธรรมจริยธรรมให้มากขึ้น ดาวพฤหัส(๕) ในราศีกันย์ ส่วนใหญ่จะฉลาดในทางโลกมากกว่าทางธรรม สำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียนไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะไม่ค่อยสนใจเรียน ถ้าบังคับให้เรียนกว่าจะสำเร็จได้จะลำบากมากและเรียบแบบไม่ต่อเนื่อง เรียน ๆ หยุด ๆ คนที่มีดาวพฤหัส(๕)เด่นในราศีกันย์และถึงลัคนาจะเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นส่วนใหญ่ และสามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ต่อไปนี้คือการ สรุปคำพยากรณ์ดาวพฤหัสบดี (๕) ได้ตำแหน่ง “ประ” หรือ “ประเกษตร” ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์ไทย หมายถึง ดาวพฤหัส (๕) สถิตในราศีที่อยู่ตรงข้ามกับราศีเกษตร ของตนเอง ได้แก่:

 ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง ประเกษตร มี ๒ ราศี คือ:

  1. ราศีเมถุน (ตรงข้ามราศีธนู)
  2. ราศีกันย์ (ตรงข้ามราศีมีน)

  ความหมายทั่วไปของ “ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่งประ”

  • เป็น ตำแหน่งเสื่อมคุณภาพ, โบราณเรียก “ดาวเสื่อมผล”
  • ส่งผลให้เจ้าชะตา มีอุปสรรคในการใช้ปัญญา ความรู้ ศีลธรรม และศรัทธา
  • มักมีความเฉลียวฉลาดในเชิง “เอาตัวรอด” มากกว่าความรู้แท้จริง
  • แม้จะฉลาด แก้ปัญหาเก่ง แต่จะ ขาดแก่นธรรม / คุณธรรม ถ้าไม่มีดาวอื่นเสริม

  รายละเอียดแต่ละราศี:

  ๒.๒.๑ ดาวพฤหัส (๕) เป็นประในราศีเมถุน

  • ซึ่งมีดาวพุธ(๔) เป็นดาวเจ้าเรือน: ดาวพุธ (๔) → สติปัญญาแบบโลกีย์ ปรับตัวเร็ว
  • ราศีมิถุนธาตุ: ลม → เร็ว ปรับเปลี่ยนง่าย ไม่มั่นคง

  ผลโดยสรุป:  เจ้าชาตาเป็นคนที่

  1. ฉลาดเฉียบแหลม วาทศิลป์ดี แก้ปัญหาได้เก่ง
  2. ไม่เชื่อใน “กรอบ” หรือ “ศีลธรรม” เท่าไหร่ → เน้น “ผลลัพธ์” มากกว่าหลักการ
  3. ใช้ทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ แม้จะต้องหลอกลวงหรือบิดเบือน
  4. เข้าถึงธรรมะยาก มักมองธรรมะเป็นเพียงความเชื่อไม่ใช่ความจริง
  5. มุ่งหวังผลประโยชน์มากกว่าความถูกต้อง   "เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว"
  6. หากมีดาวศุภเคราะห์โยคถึง (เช่น ๑, ๔, ๖) → ปรับสมดุลขึ้นได้
  7. ถ้าโดดเดี่ยว → จะมีแนวโน้ม “ฉลาดแต่ไร้คุณธรรม”

 ดาวพฤหัส(๕) สถิตราศีมิถุน ยังได้ “ตำแหน่งอุจจาวิลาส” (ตามคัมภีร์จักรทีปนี) ซึ่งหมายถึง:

  • มีสติปัญญาเฉียบแหลม ปราศจากโทษ
  • เป็นนักปราชญ์, ครู, แพทย์, ราชการ, เภสัชกร
  • หากมีจรรยาบรรณ → จะได้ยศศักดิ์สูงมาก

  ๒.๒.๒ ดาวพฤหัส (๕) เป็นประในราศีกันย์

  • เจ้าเรือน: ดาวพุธ (๔) เช่นกัน
  • ธาตุ: ดิน → คิดช้า ลึก และยึดประสบการณ์มากกว่าทฤษฎี

  ผลโดยสรุป: ดาวพฤหัส(๕) เป็นประในราศีกันย์ เจ้าชาตาจะเป็นคน

  1. ฉลาดจากประสบการณ์จริง ไม่ชอบท่องจำ
  2. ไม่ชอบการเรียนตามระบบ → เรียนแบบหยุด ๆ หาย ๆ
  3. ขี้เบื่อกับตำรา แต่ถ้าได้ทำจริง จะเรียนรู้ไว
  4. มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดสูงมาก — “สู้ครู” คือคิดเหนือครู, ดื้อกับครู
  5. หากไม่เสริมศีลธรรม → จะ “โกงจนบันลือโลก” ใช้ประโยชน์จากความฉลาดแบบไม่มีขอบเขต
  6. หากมีดาวราหู (๘) ร่วมสนับสนุน → เป็นนักพนัน เซียนหวย นักแก้เกม
  7. เข้าถึงธรรมะได้ยาก เว้นแต่มีกุศลเก่าส่งเสริม หรือได้รับการปลูกฝังจากครอบครัว

  สรุปโดยรวม: “พฤหัสประ” คือ “พฤหัสที่หลุดจากครูธรรมะ กลายเป็นครูทางโลก”  ฉลาดเฉียบแหลม แต่ขาดจริยธรรมในตัว หากไม่มีดาวเกื้อหนุน → จะกลายเป็นคนฉลาดแต่มีปัญหาทางศีลธรรม  แต่หากมี ดาวศุภเคราะห์ดี ๆ เช่น ๑, ๒, ๔, ๖ โยคถึงลัคนาหรือพฤหัส → จะแปรเป็น “ครูเทาๆ” หรือ “นักแก้ปัญหาอย่างมีศีลธรรม”

 ๒.๓. ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งอุจจ์ 

๒.๓.๑. ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่ง อุจ ในราศีกรกฎ ราศีกรกฎเป็นราศีธาตุน้ำ ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวธาตุดิน เมื่อมาอยู่ในราศีกรกฎ ดาวพฤหัส(๕) ในราศีกรกฎจึงเป็นธาตุชั้นที่ ๒ เป็นธาตุคู่มิตร พฤหัสเป็นอุจจ์ ให้คุณทางวิชาความรู้ มีความรู้ความสามารถสูง เชี่ยวชาญ รับราชการจะได้ดี เหมาะที่จะเป็นครู อาจารย์  แพทย์ วิศวะกร อัยการ ผู้พิพากษา 

 พฤหัสเป็นอุจจาวิลาส ให้คุณทางวิชาความรู้ มีความรู้ความสามารถสูง เชี่ยวชาญ รับราชการจะได้ดี เหมาะที่จะเป็นครู อาจารย์

พฤหัสเป็นอุจจาภิมุข (เทียบเท่ากับเป็นอุจ เฉพาะราศีนี้) ให้คุณทางมีผู้ใหญ่ช่วยเหลือ เป็นผู้รอบรู้ ฉลาด สามารถ และมีสติปัญญาสูง จะร่ำรวย

.

๒.๓.๒. ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในราศีมังกร ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา ดาวพฤหัส(๕) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป หากดาวพหัส(๕) เป็นนิจ ทำให้เป็นคนเขลาปัญญา สติปัญญาในการศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยดี หรือจะมีโอกาสในเรียนรู้ด้วยความยากลำบากกว่าคนอื่น สำเร็จได้ยาก มักมีสติปัญญาไม่ค่อยเฉียบแหลม และจะเสียนิสัยเพราะปากพล่อย เจ้าชาตามักพูดจาไม่น่าฟัง จะมีโทษเพราะปาก หรือมีโอฐภัย ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป ดาวพฤหัส(๕) ไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน ๑๕ องศา ขึ้นไป นอกนั้น เป็นนิจ  

ต่อไปนี้คือ การสรุปคำพยากรณ์ดาวพฤหัสบดี (๕) เมื่ออยู่ในตำแหน่งพิเศษ อุจจ์ และ นิจ ตามหลักโหราศาสตร์ไทย โดยเฉพาะการพิจารณา คุณภาพของดาวพฤหัส (๕) ในแง่ของ วาสนา สติปัญญา ศีลธรรม และหน้าที่การงาน ซึ่งถือเป็นตัวแทนของ “ดาวครู”

  ๒.๓.๑ ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง อุจจ์ ในราศีกรกฎ

  รายละเอียด:   ราศีกรกฎ เป็น ธาตุน้ำ ดาวพฤหัส (๕) เป็น ดาวธาตุดิน  ดินกับน้ำ = ธาตุชั้น ๒ (ธาตุคู่มิตร) → ให้คุณมาก  พฤหัสในราศีกรกฎ = อุจจ์   ให้คุณมากที่สุด

  คุณลักษณะของพฤหัส (๕) อุจจ์:

  1. สติปัญญาลึกซึ้ง ฉลาดปราดเปรื่อง เข้าใจหลักธรรมและเหตุผลดีเยี่ยม
  2. เหมาะกับงานราชการ งานวิชาการ เช่น ครู อาจารย์ แพทย์ วิศวกร ผู้พิพากษา
  3. มีวาสนา เจริญด้วยตำแหน่ง ยศศักดิ์ และความรู้
  4. ได้ “อุจจาวิลาส” = เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ความรู้สูง เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  5. ได้ “อุจจาภิมุข” = มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ สนับสนุน มีบุญญาบารมี

 สรุป: ดาวพฤหัส (๕) ในราศีกรกฎ = เป็น “พฤหัสครูแท้” มีทั้ง ความรู้ ความดี ศีลธรรม และวาสนา ครบถ้วน 

  ๒.๓.๒ ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง นิจ ในราศีมังกร

  รายละเอียด:    ราศีมังกร เป็น ตรงข้ามราศีอุจจ์ (กรกฎ) → เป็น นิจ   ดาวพฤหัสธาตุดิน อยู่ในราศีมังกร ธาตุดินเช่นกัน → ธาตุเดียวกัน แต่ ตำแหน่งตกต่ำ

  เงื่อนไขพิเศษ:  ดาวพฤหัส (๕) จะเป็นนิจเฉพาะเมื่อมีองศาไม่เกิน ๑๕ องศา  หาก มากกว่า ๑๕ องศา → ถือว่า “พ้นนิจ” หรือ ไม่เป็นนิจ

 คุณลักษณะของพฤหัส (๕) เป็นนิจ: 

  1. สติปัญญาอ่อน เข้าถึงธรรมะได้ยาก เข้าใจโลกแบบบิดเบือน
  2. เรียนรู้ล่าช้า สำเร็จช้า มักใช้เวลาในการเรียนรู้มากกว่าคนทั่วไป
  3. มักพูดไม่คิด ปากพล่อย พูดจนตนเองเดือดร้อน → เกิด “โอฐภัย”
  4. ความเชื่อ ความศรัทธาไม่มั่นคง → ขาดหลักทางจริยธรรม
  5. หากไม่มีดาวศุภเคราะห์ช่วย → มักถูกหลอกง่าย หรือนำความรู้ไปใช้ผิดทาง

  สรุป: ดาวพฤหัส (๕) ในราศีมังกร โดยเฉพาะที่ต่ำกว่า ๑๕ องศา จะ ให้โทษด้านสติปัญญา วาสนา และความมั่นคงทางจิตวิญญาณ หากมีองศาเกิน ๑๕° → ไม่ถือว่าเป็นนิจ → พลังของพฤหัสกลับมาได้ส่วนหนึ่ง ต้องพิจารณาดาวเกื้อกูลร่วมด้วย

 

๒.๔. ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งมหาจักรและจุลจักร

๒.๔.๑. ดาวพฤหัส(๕) เป็นมหาจักร์ ในราศีพิจิก ดาวพฤหัส(๕) ธาตุดิน อยู่้ในราศีพิจิก เป็นราศีธาตุน้ำ ทำให้ดาวพฤหัส(๕) เป็นธาตุชั้น๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณมาก ดาวมหาจักร มีอำนาจและอิทธิพลในทางโลดโผน พลิกแพลง มักไม่เป็นไปตามปกติธรรมดา เป็นดาวคุ้มโทษ ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง มีสภาวะพิศดาร เป็นดาวโลดโผน เป็นคนมีมานะอดทน สามารถพันฝ่าอุปสรรค เป็นคนแกร่งกล้า เป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบมาก ถ้ากุมลัคน์จะให้ผลเต็มที่ ดวงชะตาบุคคลใด มีดาวมหาจักรกุมลัคน์ มักมีลักษณะสง่าผ่าเผย ปราดเปรียว ว่องไว มีลักษณะเด่น ต้องตาผู้พบเห็น

.

ตำแหน่งของดาวจุลจักร

๒.๔.๒. ดาวพฤหัส(๕) ไดัตำแหน่งจุลจักร ในราศีพฤษภ ดาวเคราะห์ที่เป็นจุลจักร คือ ดาวที่สถิตอยู่ในราศีตรงข้ามกับดาวมหาจักร เป็นตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่ให้คุณน้อยกว่าดาวเคราะห์มหาจักร ฉะนั้นดาวเคราะห์ที่เป็นจุลจักร จึงเป็นตำแหน่งเด่นเช่นกัน และให้คุณจริง แต่ต้องกุมลัคนา และมีดาวที่เป็นเกษตรเรือนในสนับสนุนอย่างแรงด้วย และดาวเคราะห์จุลจักรดวงนั้นจึงจะให้คุณเด่นเป็นพิเศษสูงสุดเท่ากับดาวเคราะห์มหาจักรดวงนั้นๆ

การพยากรณ์ ดาวพฤหัสบดี (๕) เมื่ออยู่ในตำแหน่ง มหาจักร และ จุลจักร เป็นการวิเคราะห์ตาม ตำแหน่งพิเศษในราศีจักร ที่มาจากแนวโหราศาสตร์ไทยชั้นสูง โดยเกณฑ์เหล่านี้สะท้อนถึงระดับ "พลังงานและบทบาทในชีวิต" ที่ แตกต่างจากเกษตร/อุจจ์/นิจ ซึ่งเน้นเรื่องคุณภาพของตัวดาวมากกว่า "พลังพลิกชีวิต" หรือ "ความโลดโผน" อย่างมหาจักร

  ๒.๔.๑. ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง มหาจักร ในราศีพิจิก

  รายละเอียด:  ราศีพิจิกเป็น ธาตุน้ำ  ดาวพฤหัส (๕) เป็นดาวธาตุดิน → ธาตุชั้น ๒ (ธาตุคู่มิตร) → ให้คุณ  ดาวมหาจักร คือ ดาวที่มีพลังเร้าแรง โลดโผน กล้าลุย สามารถฝ่าอุปสรรค มีเล่ห์กล

  ผลของดาวพฤหัส (๕) มหาจักร:

  1. กล้าหาญ แกร่งกล้า มีอำนาจในทางปัญญา
  2. มีไหวพริบเฉียบแหลม เจ้าเล่ห์แบบผู้รู้ ไม่ใช่เจ้าเล่ห์แบบหลอกลวง
  3. เป็นดาวคุ้มโทษ – ทำให้เจ้าชาตาแคล้วคลาดจากภัยร้าย
  4. มานะอดทนสูง ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความก้าวหน้า ไม่พึ่งโชค
  5. มีสภาวะพิศดาร – หมายถึงชีวิตอาจไม่ได้เรียบง่าย แต่ “พุ่งแรง”
  6. ถ้า กุมลัคนา → จะ โดดเด่นด้านบุคลิก: สง่างาม ฉลาดไว เป็นคนที่ผู้อื่นสังเกตได้

  ดาวมหาจักร มักจะ "พาความสำเร็จมาอย่างไม่ธรรมดา" เช่น สำเร็จจากความลำบาก มีจุดหักเหชีวิต แล้วฟื้นตัวเร็ว


  ๒.๔.๒. ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง จุลจักร ในราศีพฤษภ

  รายละเอียด:  ราศีพฤษภเป็น ธาตุดิน  ดาวพฤหัส (๕) ธาตุดิน → ธาตุเดียวกัน (ธาตุชั้น ๑ อสีติธาตุ) → ให้คุณมาก 

  • จุลจักร = ตำแหน่งตรงข้ามมหาจักร → ตรงข้ามพิจิก คือ พฤษภ
  • เป็นดาวที่ ให้คุณเงียบ ๆ อย่างมั่นคงแต่ไม่รุ่นแรง เท่ากับมหาจักร

 ผลของดาวพฤหัส (๕) จุลจักร:

  1. ให้คุณน้อยกว่ามหาจักร, แต่ยังเป็นตำแหน่งเด่น ถ้าได้เงื่อนไขเสริม
  2. ถ้า กุมลัคนา → เจ้าชาตาเป็นคนมีคุณภาพภายในสูง ขยัน รู้จักวางแผน รู้คุณค่าชีวิต
  3. ต้อง มีดาวเกษตรในเรือนชาตาสนับสนุน → เช่น ดาวตนุลัคน์เป็นเกษตร
  4. ลักษณะพฤหัสจุลจักร = สุขุม เยือกเย็น มีปัญญาแฝง ไม่แสดงออก
  5. ไม่เร้าแรง ไม่โลดโผน แต่ “คงเส้นคงวา” ทำให้ประสบความสำเร็จแบบมั่นคง

  ดาวจุลจักร เหมาะกับงานด้าน บริหาร การเงิน ศิลป์ชั้นสูง ปรัชญา — แต่ต้องมีแรงหนุนจากดวงเดิมจึงจะ “แกร่งเท่ามหาจักร” 

     ดวงราชาโชค

          ดวงเทวีโชค

๒.๕ .ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งราชาโชค ในราศีเมษ ดวงราชาโชคเป็นดวงชะตาที่มีวาสนา หมายถึง มักมีผู้ให้การอุปถัมภ์ในยามตกยาก ผู้ใหญ่อุ้มชู ไม่ตกต่ำ มีเทพพิทักษ์ เป็นดาวเสริมวาสนา แม้ผู้นั้นเกิดในป่าพงไพร ฐานะต่ำต้อยก็ตาม ก็จะมีโอกาสได้ผู้ให้การส่งเสริมจนเฟื่องฟูมีศักดิ์ศรีขึ้นได้ ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งเทวีโชค ในราศีตุลย์ ดาวเคราะห์ที่เป็นเทวีโชค คือ ดาวที่อยู่ในตำแหน่งในราศีตรงข้ามกับดวงดาวที่เป็นราชาโชค ดาวเคราะห์เทวีโชค ให้คุณน้อยกว่าดวงดาวราชาโชค แต่ถ้ากุมลัคนาแล้ว จึงจะมีคุณสมบัติเด่นดีที่สุด ให้คุณเป็นพิเศษสุดเท่ากับดาวนั้นเป็นราชาโชค 

การพยากรณ์ ดาวพฤหัสบดี (๕) ที่ได้ตำแหน่ง ราชาโชค และ เทวีโชค ตามหลักโหราศาสตร์ไทยนั้น เป็นการวิเคราะห์ตำแหน่งพิเศษที่ ให้คุณด้านวาสนา โชคลาภ อุปถัมภ์ และความรุ่งเรืองในชีวิต ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดขึ้นของ "ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ" หรือ “แรงส่งวาสนา” ที่เกินกว่าพื้นฐานทั่วไป

  ๒.๕.๑ ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง ราชาโชค ในราศีเมษ

  ความหมายของ "ราชาโชค":  เป็น ตำแหน่งแห่งวาสนาโดยกำเนิด   ส่งผลให้ เจ้าชะตาได้รับการอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่ หรือโชคลาภที่ไม่ได้มาจากความสามารถล้วน ๆ แม้ฐานะเดิมต่ำต้อย แต่จะมีโอกาส “ผงาดขึ้นเป็นใหญ่” จากการสนับสนุน

 ผลเมื่อ พฤหัส (๕) ได้ราชาโชค:

  1. มีวาสนาเกิดจากการช่วยเหลือของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใหญ่หรือคนมีอำนาจ
  2. เทพพิทักษ์/สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง – รอดจากวิกฤติบ่อยครั้งแบบไม่คาดคิด
  3. แม้ชีวิตเริ่มลำบาก แต่ จะมีจุดหักเหขึ้นสูง ไม่ต่ำอยู่นาน
  4. เหมาะกับ อาชีพข้าราชการ, นักปกครอง, ผู้บริหาร, นักบวชสายธรรมะ
  5. มี “บารมีโดยธรรมชาติ” คนทั่วไปยอมรับนับถือ

  ถ้ากุมลัคนา หรือได้โยคกับศุภเคราะห์ → พฤหัสราชาโชคจะให้คุณแรงมากในด้านชื่อเสียง การศึกษา การงาน และวาสนา

  ๒.๕.๒ ดาวพฤหัส (๕) ได้ตำแหน่ง เทวีโชค ในราศีตุลย์

  ความหมายของ "เทวีโชค":  เป็น ตำแหน่งตรงข้ามราชาโชค → ให้คุณน้อยกว่า แต่ยังนับเป็นดาวเด่น  เปรียบเหมือน พลังของเมตตา ความรัก ความเสน่หา และความนุ่มนวลที่นำโชค

  ผลเมื่อ พฤหัส (๕) ได้เทวีโชค:

  1. มี เสน่ห์อ่อนโยนแบบผู้รู้ – ไม่เร้าแรง แต่ผู้คนเคารพรัก
  2. ได้โชคจาก เมตตา ความสัมพันธ์ การสมาคม หรือคนรัก
  3. ถ้า กุมลัคนา → พลังจะเด่นมากพอ ๆ กับราชาโชค
  4. มีวาสนาแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” ไม่หวือหวา แต่มั่นคง
  5. เหมาะกับงานแนว อาจารย์, ที่ปรึกษา, นักศิลปะ, นักบวชสายเมตตา

  สรุปสุดท้าย:  พฤหัสราชาโชค (เมษ) → ชีวิตจะมีคนส่งเสริมให้เจริญสูงขึ้น  มีวาสนา  พฤหัสเทวีโชค (ตุลย์)  เจ้าชาตาจะเป็นคนที่มีเมตตา นุ่มนวล ได้โชคจากคนใกล้ตัว ถ้ากุมลัคนา จะเด่นแบบ "ผู้นำที่อ่อนโยน"

ผู้ที่มี ดาวพฤหัสบดี (๕) ได้ เกณฑ์พิเศษ เช่น

ได้ตำแหน่ง ในเรือนชะตาที่ส่งเสริม เช่น กัมมะ, ศุภะ, ลาภะ ฯลฯ

ได้ เกษตร, อุจจ์, มหาจักร, ราชาโชค, องค์เกณฑ์, จันทร์เกณฑ์, หรือ

มักเป็นผู้ที่มี บุญเก่าแรง, มี ภูมิปัญญา, มี วาสนา, และมักจะมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ในเรื่องการศึกษา ความก้าวหน้า และหน้าที่การงานอย่างยิ่ง


 อาชีพของผู้มีดาวพฤหัส (๕) ได้เกณฑ์พิเศษ  

๑. สายวิชาการ / สติปัญญา / ปรัชญา

นักการศึกษา / ผู้อำนวยการโรงเรียน

นักโหราศาสตร์ / ผู้สอนธรรมะ / พระภิกษุ

นักปรัชญา / นักศาสนา / นักบวช

นักวิชาการ / นักวิจัย

ครู-อาจารย์

๒. สายกฎหมาย / ความยุติธรรม

เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม / ป.ป.ช.

ที่ปรึกษากฎหมาย / นักร่างกฎหมาย

ผู้พิพากษา / อัยการ / ทนายความ

๓. สายราชการ / ผู้บริหาร

ผู้นำองค์กรรัฐวิสาหกิจ

นักการเมืองที่มีจริยธรรม / ผู้ว่าฯ / รัฐมนตรี

ข้าราชการระดับสูง / นักปกครอง

๔. สายสุขภาพ / การแพทย์

นักจิตวิทยา / ที่ปรึกษาชีวิต / โค้ชทางใจ

แพทย์แผนปัจจุบัน / แพทย์แผนไทย / เภสัชกร

๕. สายการศาสนา / ศีลธรรม / จิตวิญญาณ

นักเขียนธรรมะ / นักแปลคัมภีร์ / ครูสอนโยคะ

พระสงฆ์ / แม่ชี / นักเทศน์ / ผู้เผยแผ่ศาสนา

๖. สายต่างประเทศ / องค์การนานาชาติ

ผู้จัดการทุนการศึกษา / ผู้ประสานงาน NGO ต่างชาติ

ผู้แทนการทูต / UN / UNESCO

 #สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ตามระบบธาตุและเรือนชาตา ตามหลักของท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(ุอุตรภัทร์) อาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย นำหลักเคล็ดลับการพยากรณ์ตามหลักระบบธาตุของอาจารย์บรรเทา มาใช้ในการวิเคราะห์ทั้งในดวงชาตาเดิม และดวงชาตาจร ทำให้การพยากรณ์ดวงชาตาเกิดความแม่นยำมากในการพยากรณ์ดวงชาตาเดิมและการพยากรณ์ดวงชาตาจร การเชื่อมโยงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจรทำให้คำพยากรณ์ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมทั่งสอนเรื่องดวงกาลชาตา สอนในการนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไทยไปใช้ในการให้ฤกษ์อีกด้วย เป็นหลักสูตรเดียวที่เรียนครบทั้งการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม การเชื่อมโนงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจร ดวงกาลชาตา รวมทั้งการให้ฤกษ์ต่าง ๆ  อาจารย์จะเปิดสอนรุ่นที่ ๑๘ เริ่มเรียนครั้งที่ ๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๒  มิถุนายน  ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เรียนจำนวน ๑๐ อาทิตย์ หลังจากจบการสอนในแต่ละสัปดาห์ผู้เรียนจะได้รับบันทึกการสอน(vdo)และเอกสารประกอบการสอนทางอีเมล์ เพื่อใช้ทบทวนการเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ดีอย่างเป็นระบบ สนใจสมัครเรียนรุ่นนี้ให้อินบ๊อก : m.me/arjarnth

Read more

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการคํานวณเอาไว้ แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถึงการเดิน แบบผิดปกติ

เกิดอะไรขึ้นกับดวงเมืองไทย เมื่อดาวราหู(๘)ย้ายราศี เป็นกรณีศึกษาตามระบบธาตุและเรือนชาตา

เกิดอะไรขึ้นกับดวงเมืองไทย เมื่อดาวราหู(๘)ย้ายราศี เป็นกรณีศึกษาตามระบบธาตุและเรือนชาตา

การพยากรณ์ตามหลักตรีวัย ตั้งแต่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ - ๒๕๗๕ ตรีวัยลาภะ(โชคลาภ รายได้ที่เกิดจากผลของนโยบาย เช่น ภาษี การค้า การส่งออก)(๘) จรสถิตวัยกัมมะ หมายถึงรัฐบาล  ซึ่งเป็นตัวแทนของปวงชน ผู้ใช้อำนาจในการบริหารประเทศ โดยมีนโยบายในการ บริหารประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางด้านเศรษฐกิจ การเงิ

ดาวราหู(๘)เล็งลัคนากับทับลัคน์ ต่างกันอย่างไร

ดาวราหู(๘)เล็งลัคนากับทับลัคน์ ต่างกันอย่างไร

เจ้าชาตามีลัคนาสถิตราศีกันย์  มีดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ สถิตราศีมีนเล็งลัคนา กับดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ ทับลัคนา  จะให้ผลต่างกันอย่างไร  ในการวิเคราะห์ดวงชาตามี ๒ ขั้นตอน คือการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม และการวิเคราะห์ดวงชาตาจร  บทความนี้เน้นเฉพาะการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิมเท่

ข้อแตกต่างราหู(๘)เล็งลัคน์และราหู(๘) ทับลัคน์

ข้อแตกต่างราหู(๘)เล็งลัคน์และราหู(๘) ทับลัคน์

ในการวิเคราะห์ดวงชาตามี ๒ ขั้นตอน คือการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม และการวิเคราะห์ดวงชาตาจร บทความนี้เน้นเฉพาะการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิมเท่านั้น เจ้าชาตามีลัคนาสถิตราศีกันย์ มีดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ สถิตราศีมีนเล็งลัคนา กับดาวราหู(๘) เจ้าเรือนอริ ทับลัคนา จะให้ผลต่างกั