คำพยากรณ์ดาวเกตุ(๙) ในดวงเดิมและดวงจร ของอาจารย์อรุณ เทศถมทรัพย์

คำพยากรณ์พระเกตุประจำราศีในดวงชาตากำเนิดและดวงชาตาจร ของท่าน อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ ท่านได้ให้คำพยากรณ์ดังนี้
๑. ราศี " เมษ " พระเกตุประจำธาตุ เป็นอุจจาวิลาศกำเนิดหมาย
พระครูโหราจารย์ท่านทำนาย ผู้นั้นจะได้ถึงที่พึ่งตน
มีผู้ช่วยชูชุบอุปถัมภ์ จะจุนค้ำยศศักดิ์ให้สูงศรี
จะเป็นปราชญ์ในชาตาปัญญาดี เสียแต่มีนิสัยหลอกกลับกลอกจริง
เจ้าเล่ห์กลคนขยันมารยานัก ทำเป็นรักทำเป็นหวงล่อลวงหญิง
คุณและโทษของพระเกตุเหตุมีจริง อย่าประวิงจงจำถ้อยคำครู”
พยากรณ์ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีเมษ ตามตำราของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมขยายความในเชิงโหราศาสตร์ไทย
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- พระเกตุในราศีเมษ = อุจจาวิลาศกำเนิด
- ผู้มีดาวเกตุสถิตราศีนี้ มัก มีผู้ใหญ่เกื้อหนุน อุปถัมภ์
- ยศศักดิ์ฐานะจะเจริญสูง มีความรู้ความสามารถ เป็นคนมีปัญญาและชอบศึกษา
- แต่โทษคือ เจ้าเล่ห์ กลับกลอก หลอกลวงเก่ง
- มีมารยามาก ทำทีว่ารักหรือหวง แต่จริง ๆ เป็นการล่อลวง
- คุณและโทษของพระเกตุปรากฏชัด ต้องพิจารณาแยกให้ดี
ผลเชิงบวก (คุณ)
- มีผู้ใหญ่/ผู้เกื้อหนุน → มักเจอผู้ช่วยเหลือในยามคับขัน
- ยศศักดิ์สูงขึ้น → เหมาะกับงานที่ต้องพึ่งบารมีหรือชื่อเสียง
- ปัญญาเฉียบแหลม → เป็นนักปราชญ์ มีชื่อเสียงทางวิชาการหรือความคิด
- ความขยันและมุ่งมั่น → ทำงานหนักได้จริง
ผลเชิงลบ (โทษ)
- นิสัยเจ้าเล่ห์ กลับกลอก → คนรอบตัวไม่ไว้ใจ อาจถูกมองว่าไม่จริงใจ
- ใช้เสน่ห์ทางเพศ/ความสัมพันธ์ → อาจมีเรื่องรักลวงหญิง (หรือชาย) ทำให้เสียชื่อเสียง
- ความจริงใจไม่มั่นคง → สร้างความขัดแย้งกับคู่ครอง หุ้นส่วน
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีเมษ เป็นราศีธาตุไฟ ดาวพระเกตุเป็นธาตุอากาศ เมื่อมาสถิตร่วม → เกิดพลังของ “ไฟ + อากาศ” = ร้อนแรง รวดเร็ว ว่องไว
- พระเกตุในเมษ = อุจจาวิลาศ ถือว่าเด่นมาก แสดงถึงความสามารถด้าน “วาทศิลป์ ความรู้ ปัญญา และชื่อเสียง”
- แต่เมื่อเกตุให้ผลด้าน “มายา–สิ่งลี้ลับ” → จึงเกิดด้านกลับคือ เล่ห์กล กลับกลอก
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีเมษ → ปัญญา–อุปถัมภ์–ยศศักดิ์ แต่ควรระวัง เล่ห์กล–กลับกลอก–รักลวง
คำพยากรณ์ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีพฤษภ ตามตำรากลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมขยายความเพิ่มเติม
๒. แม้ราศี " พฤษภ " พบพระเกตุ มหาอุจจ์อันวิเศษกว่าคนผู้
มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่วิชัยชู จะสมบูรณะลาภท้าวพระยา
และจะเป็นขุนคลังแห่งกษัตริย์ รักษาทรัพย์สมบัติมากหนักหนา
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีพฤษภ → ตำแหน่งมหาอุจจ์ อันสูงสุด
- “ผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่” → มีวาสนาเด่นกว่าคนทั่วไป
- “จะสมบูรณะลาภท้าวพระยา” → ทรัพย์สิน เงินทอง ความอุดมสมบูรณ์จะมาก
- “จะเป็นขุนคลังแห่งกษัตริย์” → เหมาะกับการดูแลทรัพย์สิน การเงิน การค้าขาย
- มีชื่อเสียงในฐานะผู้รักษาทรัพย์สมบัติ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- มหาอุจจ์ → สถานะสูงสุดของพระเกตุ → เสริมบุญบารมีให้ผู้ชาตานี้ “โดดเด่น–มีอำนาจ–ทรัพย์สินมาก”
- วาสนาใหญ่ → ได้เกียรติ ได้เป็นที่พึ่งของคนอื่น
- ด้านการเงิน → เกี่ยวข้องกับเงินทอง มักรักษาทรัพย์สินได้ มีโอกาสบริหารการเงิน/ธุรกิจใหญ่
- อำนาจบารมี → ได้รับความไว้วางใจจากผู้มีอำนาจ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ความมั่งคั่งมาก → อาจมีภาระดูแลทรัพย์สิน มรดก หรือเกิดข้อขัดแย้งเพราะทรัพย์
- ถูกคาดหวังสูงจากผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชา → ทำให้มีแรงกดดัน
- ระวังความ “หวงทรัพย์” หรือการยึดติดกับวัตถุ
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีพฤษภ เป็น ราศีธาตุดิน มีความมั่นคง หนักแน่น
- ดาวพระเกตุเป็นดาวธาตุอากาศ เมื่อมาสถิตธาตุดิน → เกิดพลัง “ดินรองรับอากาศ” คือ บุญบารมีที่มีรากฐานมั่นคง (ทรัพย์–ศักดิ์–วาสนา)
- เมื่อได้ตำแหน่ง มหาอุจจ์ → แสดงถึงบุคคลที่มีบุญมาก มีโอกาสสูงในชีวิต
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีพฤษภ → ทรัพย์–บุญใหญ่–ขุนคลัง ชีวิตมักมั่งคั่ง ร่ำรวย มีวาสนาใหญ่ แต่ควรระวังภาระทรัพย์และความยึดติดในวัตถุ
พยากรณ์ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมิถุน จากตำรากลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบายเสริม
๓. ที่ราศี " มิถุน " บุญพระเกตุ ผู้นั้นจะเป็นเหตุด้วยน้องพี่
ญาติวงศ์ริษยาเป็นราคี แต่ก็มีบุญทรัพย์นับอนันต์
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมิถุน → “บุญพระเกตุ”
- “จะเป็นเหตุด้วยน้องพี่” → มักมีปัญหาหรือความขัดแย้งกับพี่น้อง ญาติวงศ์
- “ญาติวงศ์ริษยาเป็นราคี” → ถูกอิจฉา ถูกหมั่นไส้จากคนใกล้ชิด
- “แต่ก็มีบุญทรัพย์นับอนันต์” → ถึงจะมีศัตรูในวงศ์ญาติ แต่บุญบารมีและทรัพย์สินยังมากมาย
ผลเชิงบวก (คุณ)
- บุญทรัพย์มาก → มีโอกาสได้ลาภหรือทรัพย์สินมหาศาล
- บารมีส่วนตัวสูง → แม้คนรอบข้างอิจฉา แต่เจ้าชาตาก็ยังเด่น
- ปัญญาทางการเงิน–การค้า → มีหัวคิดในการแสวงหาทรัพย์
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ญาติพี่น้องริษยา → มีเหตุให้ขัดแย้งกับเครือญาติ อาจถูกกันหรือกีดกัน
- ถูกอิจฉาในวงสังคม → เมื่อมีทรัพย์มาก คนใกล้ชิดมักไม่ยินดีด้วย
- ปัญหาจากเครือข่าย → สิ่งที่ควรเป็นที่พึ่งพา กลับกลายเป็นภาระ
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีมิถุน เป็นราศีธาตุลม ดาวพระเกตุเป็นธาตุอากาศ → ลม + อากาศ = ยิ่งขยายพลังแห่งความเร็ว ปัญญา และความคิด
- แต่เพราะมิถุนหมายถึง “คู่แฝด–พี่น้อง–เครือญาติ” → เมื่อพระเกตุ (ดาวบุญ–สิ่งลี้ลับ–อิทธิพลเหนือธรรมชาติ) มาสถิต จึงมักให้ผลด้าน “ญาติพี่น้องแตกแยก” พร้อมกับ “มีบุญทรัพย์ใหญ่”
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมิถุน → บุญทรัพย์–อิจฉา–ญาติแตกแยก คือชีวิตมีวาสนาและทรัพย์สินมาก แต่ถูกริษยาจากเครือญาติ–พี่น้อง
คำพยากรณ์ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกรกฎ ตามบทกลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมขยายความ
๔." กรกฏ " หมดราคีแม้มีเกตุ จะมีคุณวิเศษแข็งขยัน
จะเรียนรู้วิชาสารพัน มีความหมั่นพากเพียรเล่าเรียนดี
จะปรากฏยศศักดิ์ด้วยความรู้
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “หมดราคีแม้มีเกตุ” → พระเกตุในราศีกรกฎไม่ก่อราคีหรือความมัวหมอง
- “จะมีคุณวิเศษแข็งขยัน” → เจ้าชาตามีความขยัน อดทน มีพลังใจเข้มแข็ง
- “จะเรียนรู้วิชาสารพัน” → รักการศึกษา สนใจวิชาแขนงต่าง ๆ
- “มีความหมั่นพากเพียรเล่าเรียนดี” → ความสำเร็จเกิดจากความเพียรไม่ใช่โชคช่วย
- “จะปรากฏยศศักดิ์ด้วยความรู้” → ได้ยศศักดิ์ ตำแหน่ง หรือชื่อเสียงจากวิชาความรู้
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ขยัน–เพียร–ตั้งใจ → ประสบความสำเร็จด้วยความพากเพียรของตน
- การศึกษาเด่น → เรียนรู้หลายแขนง ใช้ความรู้สร้างชื่อเสียง
- ยศศักดิ์จากวิชา → ได้ตำแหน่ง/ยกย่องเพราะความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เพราะเส้นสาย
- พระเกตุไม่มัวหมอง → ผลด้านบวกมากกว่าลบ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ความเพียรและความขยันอาจทำให้เหนื่อยหรือกดดันตนเอง
- มีโอกาสยึดติดกับการเรียนหรือความรู้มากจนละเลยด้านอื่นของชีวิต
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีกรกฎ เป็นราศีธาตุน้ำ → สัญลักษณ์ของ “ครอบครัว–บ้าน–ความรู้สึก–รากเหง้า”
- ดาวพระเกตุเป็นธาตุอากาศ → เมื่อมาอยู่ในธาตุน้ำ เกิดพลัง อากาศพัดน้ำ → เคลื่อนไหว ทำให้เจ้าชาตา “เรียนรู้–เปลี่ยนแปลง–แสวงหาความรู้”
- การที่ตำราบอกว่า “หมดราคี” หมายถึง พระเกตุไม่ทำให้เสื่อม แต่กลับส่งเสริมให้เจ้าชาตามีชื่อเสียงจากความรู้
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกรกฎ → ขยัน–เรียนรู้–ยศจากวิชา ชีวิตเด่นเพราะความเพียรและสติปัญญา ได้ยศศักดิ์ด้วยความรู้ ไม่มัวหมอง
คำพยากรณ์ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีสิงห์ ตามบทกลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบาย
๕. เพราะเกตุอยู่ใน " สิงห์ " หยิ่งราศี
ชื่อว่าราชาชาติอาจจะมี เกียรติยศศักดิ์ศรีดีจริงจริง
จะไปในที่ใดได้ไม่เสื่อมมรรค ย่อมจะเป็นที่รักแห่งชายหญิง
แต่จะเป็นขี้โรคทุกข์โศกจริง เจ้าโทโสหยิ่งไม่ยอมใคร
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “เพราะเกตุอยู่ในสิงห์ หยิ่งราศี” → เมื่อพระเกตุสถิตราศีสิงห์ ทำให้เจ้าชาตาโดดเด่น มีราศีสง่า
- “ชื่อว่าราชาชาติอาจจะมี เกียรติยศศักดิ์ศรีดีจริงจริง” → มีเกียรติยศสูง อาจได้ตำแหน่งระดับผู้นำ
- “จะไปในที่ใดได้ไม่เสื่อมมรรค ย่อมจะเป็นที่รักแห่งชายหญิง” → ไปแห่งใดมีคนรักใคร่ เคารพนับถือ
- “แต่จะเป็นขี้โรคทุกข์โศกจริง เจ้าโทโสหยิ่งไม่ยอมใคร” → โทษคือสุขภาพอ่อน เจ็บป่วยง่าย และมีทิฐิสูง ดื้อ หยิ่ง
ผลเชิงบวก (คุณ)
- สง่าราศี–มีเกียรติ → มีบารมี ดูโดดเด่นในสังคม
- ตำแหน่งผู้นำ → มีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งสูง ได้ยศศักดิ์
- คนรักใคร่ → ไม่ว่าจะไปที่ใด มักเป็นที่รักและชื่นชม
- เสน่ห์ส่วนตัว → มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามหรือคนรอบข้าง
ผลเชิงลบ (โทษ)
- สุขภาพไม่แข็งแรง → ขี้โรค เจ็บป่วยง่าย ทำให้ทุกข์โศกใจ
- เจ้าโทโส–หยิ่ง → มีทิฐิสูง ไม่ยอมใคร ง่ายต่อการขัดแย้ง
- ดื้อรั้น → ไม่รับฟังความเห็นผู้อื่น
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีสิงห์ เป็นราศีธาตุไฟ สัญลักษณ์ “ราชสีห์” หมายถึง อำนาจ เกียรติยศ ความเป็นผู้นำ
- เมื่อพระเกตุ (ดาวบุญ–ความลี้ลับ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์) มาสถิตราศีสิงห์ → บุญบารมีทำให้เจ้าชาตา “สง่าดุจราชา”
- แต่เพราะไฟ + อากาศ (สิงห์ = ไฟ, เกตุ = อากาศ) → ให้พลังแรงมากจน “ร้อนเกินไป” จึงส่งผลเรื่องโทโส–สุขภาพอ่อน
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีสิงห์ → เกียรติ–ผู้นำ–เป็นที่รัก แต่ควรระวัง สุขภาพ–เจ้าโทโส–หยิ่งไม่ยอมใคร
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกันย์ จากตำรากลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
๖. ราศี " กันย์ " นั้นพระเกตุวิเศษนัก เป็นที่รักแห่งญาติสนิทได้
จะสั่งสมสินทรัพย์นับกระไร ทั้งเงินทองข้าไทก็มากมูล
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “ราศีกันย์นั้นพระเกตุวิเศษนัก” → พระเกตุในราศีกันย์ให้ผลเด่นชัดมาก
- “เป็นที่รักแห่งญาติสนิทได้” → ญาติพี่น้อง ญาติมิตรใกล้ชิดให้ความรัก ความเมตตา
- “จะสั่งสมสินทรัพย์นับกระไร” → มีโอกาสสร้างฐานะ มั่งคั่ง ทรัพย์สินเพิ่มพูน
- “ทั้งเงินทองข้าไทก็มากมูล” → ไม่เพียงมีทรัพย์ ยังมีบริวารและคนรับใช้มาก
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ญาติสนับสนุน → ได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากญาติใกล้ชิด
- ฐานะมั่นคง → สามารถสะสมทรัพย์สินได้มาก
- บริวารมาก → มีผู้ช่วยเหลือ ลูกน้อง บริวาร หรือผู้ตามมากมาย
- ความวิเศษของพระเกตุ → เสริมบารมี ชื่อเสียง และการยอมรับ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- อาจยึดติดกับวัตถุและทรัพย์สินมากเกินไป
- การมีบริวารมาก → อาจนำความวุ่นวายหรือปัญหามาให้
- ภาระดูแลทรัพย์–ญาติ–บริวาร ทำให้เหน็ดเหนื่อย
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีกันย์ เป็นราศีธาตุดิน สัญลักษณ์ “หญิงพรหมจารี” → เน้นความละเอียดรอบคอบ ความเป็นระเบียบ
- พระเกตุ (ธาตุอากาศ) เมื่อสถิตในดิน → ทำให้ความมั่นคงของดินยิ่งแน่น มีพลังเสริมด้าน การสะสมทรัพย์–ฐานะ–การจัดการ
- เมื่อได้คำว่า “วิเศษนัก” ในกลอน → แสดงถึงพระเกตุในกันย์ถือว่ามีพลังหนุนมาก
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกันย์ → ญาติรัก–ทรัพย์มั่งคั่ง–บริวารมาก แต่ควรระวัง ภาระทรัพย์–ยึดติดวัตถุ
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีตุลย์ จากคำกลอนของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบายเชิงโหราศาสตร์
๗.ราศี " ตุลย์ " ผิว์พระเกตุเสด็จอยู่ มักรอบรู้ธรรมาปัญญาหนุน
มีทั้งทรัพย์วาสนาวิชาพูล เพราะเกตุกูลเกื้อเกิดกำเนิดมา
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “ผิว์พระเกตุเสด็จอยู่” → เมื่อพระเกตุสถิตราศีตุลย์
- “มักรอบรู้ธรรมาปัญญาหนุน” → เจ้าชาตามีปัญญา รอบรู้ ทั้งทางโลกและทางธรรม
- “มีทั้งทรัพย์วาสนาวิชาพูล” → มีทรัพย์สิน วาสนา และวิชาความรู้หนุนชีวิต
- “เพราะเกตุกูลเกื้อเกิดกำเนิดมา” → เหมือนมีบุญเก่าคอยอุปถัมภ์
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ปัญญาและวิชา → เจ้าชาตาเด่นด้านความรู้ รอบรู้ทั้งศาสตร์ศิลป์และธรรมะ
- ทรัพย์และวาสนา → ชีวิตมีฐานะ มีลาภผล และผู้สนับสนุน
- บุญเก่าหนุน → สิ่งดี ๆ ที่ทำมาในอดีตเกื้อกูลปัจจุบัน
- เกตุในตุลย์ → ให้ความสมดุลในชีวิต (ตุลย์ = ตราชั่ง)
ผลเชิงลบ (โทษ)
- อาจมั่นใจในปัญญาของตนมากจนไม่รับฟังผู้อื่น
- มีความลังเลหรือโลเล (เพราะราศีตุลย์ = ธาตุลม เน้นการปรับสมดุล)
- ภาระการสะสมวิชาและทรัพย์อาจทำให้เหนื่อยใจ
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีตุลย์ เป็นราศีธาตุลม → เกี่ยวกับความสัมพันธ์ การสมดุล การเจรจา
- พระเกตุ (ธาตุอากาศ) มาสถิตธาตุลม → เสริมด้าน ปัญญา–การเรียนรู้–ความรู้กว้างไกล
- ทำให้เจ้าชาตาเด่นด้านวิชาการ กฎหมาย ศาสนา หรือสิ่งที่ต้องใช้ความรู้สูง
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีตุลย์ → รอบรู้–ทรัพย์วาสนา–บุญเก่าหนุน แต่ควรระวัง ความลังเล–มั่นใจตนมากเกินไป
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีพิจิก จากกลอนพยากรณ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบายเพิ่มเติม
๘. อันราศี " พฤศจิก " พระเกตุเสด็จตั้ง ผู้นั้นหยั่งรู้ธรรมเป็นหนักหนา
เป็นอาจารย์ศิษย์ก็รักและบูชา แต่ใฝ่ตัวสูงกว่าฐานันดร
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “พระเกตุเสด็จตั้ง” → พระเกตุสถิตราศีพิจิก
- “ผู้นั้นหยั่งรู้ธรรมเป็นหนักหนา” → เจ้าชาตามีความเข้าใจลึกซึ้งในหลักธรรม ศาสนา หรือสิ่งลี้ลับ
- “เป็นอาจารย์ศิษย์ก็รักและบูชา” → มีวาสนาเป็นครูอาจารย์ เป็นที่เคารพศรัทธา
- “แต่ใฝ่ตัวสูงกว่าฐานันดร” → โทษคือ มักหยิ่งหรือยกตนสูงเกินฐานะจริง
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ปัญญาธรรมะ → เข้าใจเรื่องศาสนา ปรัชญา จิตวิญญาณ หรือศาสตร์ลี้ลับ
- เป็นครูอาจารย์ → มีบุญในการถ่ายทอดความรู้ ศิษย์รัก ศิษย์เคารพ
- บารมีทางจิตวิญญาณ → ผู้คนศรัทธา ยกย่องให้เป็นผู้นำด้านจิตใจ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- มักมี ทิฐิสูง → ชอบยกตนข่มผู้อื่น
- หลงอำนาจ–หลงเกียรติ → ทำให้ถูกมองว่าถือตัว
- อาจห่างเหินจากคนรอบข้าง เพราะความหยิ่งหรือยึดตน
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีพิจิก เป็นราศีธาตุน้ำ แฝงพลังความลึก ลี้ลับ การเปลี่ยนแปลง (เป็นราศีแห่งการเกิด–ตาย–พลิกฟื้น)
- ดาวพระเกตุ (ดาวบุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลี้ลับ) มาสถิต → ยิ่งขับพลัง “หยั่งรู้–เหนือธรรมดา”
- แต่เพราะพิจิกมีพลังเข้มแข็ง มักทำให้ผู้มีพระเกตุที่นี่ “ยกตน–หยิ่ง–ถือเกียรติสูง”
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีพิจิก → ธรรมะลึกซึ้ง–ครูอาจารย์–ศิษย์ศรัทธา แต่ควรระวัง ทิฐิสูง–ยกตนเกินฐานะ
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีธนู จากกลอนพยากรณ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมขยายความ
๙. ราศี " ธนู " ที่อยู่แห่งพระเกตุ เป็นเกษตรตามว่าเมธาสอน
จะมีทรัพย์เหลือคณาสถาพร ตระกูลสูงมาแต่ก่อนย้อนทำนาย
และจะมีปัญญารู้รอบคอบ แต่โรคร้ายมักชอบเบียดเบียนหลาย
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “ราศีธนูที่อยู่แห่งพระเกตุ เป็นเกษตรตามว่าเมธาสอน” → ดาวเกตุในราศีธนูถือว่า ได้ตำแหน่งเกษตร มีพลังมั่นคง
- “จะมีทรัพย์เหลือคณาสถาพร” → มีทรัพย์มาก มั่งคั่ง ไม่ขาดแคลน
- “ตระกูลสูงมาแต่ก่อนย้อนทำนาย” → มักเกิดในตระกูลดี มีชาติตระกูลสูง
- “และจะมีปัญญารู้รอบคอบ” → ฉลาด รอบรู้ พิจารณาเรื่องต่าง ๆ ได้รอบด้าน
- “แต่โรคร้ายมักชอบเบียดเบียนหลาย” → โทษคือ มักมีโรคประจำตัวหรือโรคใหญ่เบียดเบียน
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ตำแหน่งเกษตร → ดาวมั่นคง ให้คุณมาก
- มั่งคั่ง–ทรัพย์มาก → มีฐานะการเงินที่ดี
- ตระกูลสูง → ได้เกียรติจากเชื้อสาย วงศ์ตระกูล
- ปัญญารอบคอบ → มองการณ์ไกล ฉลาดสุขุม
ผลเชิงลบ (โทษ)
- โรคร้ายรุมเร้า → มักมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังหรือโรคที่รักษายาก
- ความกดดันจากวงศ์ตระกูล → บางครั้งถูกคาดหวังสูงจากชื่อเสียงวงศ์
- แม้มีปัญญาและทรัพย์มาก แต่สุขภาพอาจเป็นข้อด้อยใหญ่
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีธนู เป็นราศีธาตุไฟ ธรรมชาติเป็นราศีของปรัชญา ศาสนา การแสวงหาความรู้ไกล
- เมื่อพระเกตุ (ดาวบุญ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–ความลี้ลับ) มาสถิตในตำแหน่ง เกษตร → เสริมความมั่นคงให้บุญบารมี ความรู้ ปัญญา และฐานะ
- แต่ธาตุไฟของธนู ทำให้พลังพระเกตุร้อนแรงเกินไป → แสดงออกมาเป็นปัญหาสุขภาพ (ไฟเผาผลาญกาย)
สรุปสั้น ๆ
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีธนู → เกษตร–มั่งคั่ง–ตระกูลสูง–ปัญญารอบคอบ แต่ควรระวัง โรคร้าย–สุขภาพเรื้อรัง
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมังกร จากกลอนพยากรณ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบาย
๑๐. " มังกร " มีพระเกตุก็ร่างกาย งามผิวผ่องพรรณรายเลิศ สคราญ
มักชอบชื่นรื่นเริงมหรสพ แต่มักพบเหตุวิบัติพลัดถิ่นฐาน
ไปต่างบ้านต่างเมืองเคืองรำคาญ เกตุกำเนิดก่อการให้เป็นไป
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “มีพระเกตุก็ร่างกาย งามผิวผ่องพรรณรายเลิศสคราญ” → เจ้าชาตามีรูปร่างงาม ผิวพรรณดี ดูสง่า
- “มักชอบชื่นรื่นเริงมหรสพ” → มีใจเริงร่า ชอบความบันเทิง มหรสพ งานรื่นเริง
- “แต่มักพบเหตุวิบัติพลัดถิ่นฐาน ไปต่างบ้านต่างเมืองเคืองรำคาญ” → มักมีเหตุให้พลัดถิ่น ต้องย้ายถิ่นฐาน หรือพบความไม่ราบรื่นในถิ่นเดิม
- “เกตุกำเนิดก่อการให้เป็นไป” → เหตุการณ์สำคัญในชีวิตเกิดจากอิทธิพลของพระเกตุ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- รูปร่างงาม–สง่า → ผิวพรรณดี บุคลิกดึงดูด
- มีเสน่ห์ด้านความบันเทิง → เข้าสังคมง่าย ชอบรื่นเริง สนุกสนาน
- บุคลิกสดใส → ทำให้คนรอบข้างชอบพอ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- พลัดถิ่นฐาน → มักต้องย้ายที่อยู่ ไปต่างบ้านต่างเมือง
- เหตุวิบัติไม่คาดคิด → มีเรื่องพลิกผันทำให้ต้องเปลี่ยนถิ่นฐานหรือวิถีชีวิต
- ความฟุ้งเฟ้อ → ชอบความรื่นเริงเกินไป จนอาจเสียเวลา/ทรัพย์
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีมังกร เป็นราศีธาตุดิน หมายถึง ความมั่นคง ความรับผิดชอบ
- เมื่อพระเกตุ (ดาวบุญ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–ความลี้ลับ) มาสถิต → ส่งผลให้เจ้าชาตาดูดี มีบุคลิกสง่า แต่เนื่องจากมังกรหมายถึงการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความมั่นคง → พระเกตุจึงให้ผลเป็น “การโยกย้าย–พลัดถิ่น” เพื่อสร้างทางใหม่ในชีวิต
- พลังอากาศของพระเกตุที่มากระทบดินของมังกร จึงทำให้ “ดินแตก” = การเคลื่อนย้าย เปลี่ยนแปลง
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมังกร → รูปร่างงาม–ชอบรื่นเริง–เสน่ห์ทางสังคม แต่ควรระวัง พลัดถิ่น–เหตุวิบัติ–ชีวิตไม่มั่นคงถาวร
ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกุมภ์ จากกลอนพยากรณ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบาย
๑๑. ราศี " กุมภ์ "ภูมิพระเกตุท่านว่าขาน เจ้าชาตารำคาญด้วยทุกข์ใหญ่
เป็นกำเนิดเกิดชาตามาแต่ไร แต่ปัญญาว่องไวไหวพริบดี
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “ภูมิพระเกตุท่านว่าขาน” → เมื่อพระเกตุสถิตราศีกุมภ์
- “เจ้าชาตารำคาญด้วยทุกข์ใหญ่” → ชีวิตมีอุปสรรคหรือเคราะห์ใหญ่ ต้องเผชิญความทุกข์อย่างหนัก
- “เป็นกำเนิดเกิดชาตามาแต่ไร” → เหมือนเจ้าชาตาต้องเผชิญวิบากกรรมติดตัวมาแต่ชาติกำเนิด
- “แต่ปัญญาว่องไวไหวพริบดี” → แม้เคราะห์มาก แต่เจ้าชาตาก็มีไหวพริบ ปัญญาเฉียบแหลม เอาตัวรอดได้เสมอ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ปัญญาไว–ไหวพริบดี → สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
- ทนทุกข์ได้ → ผ่านอุปสรรคใหญ่ ๆ ด้วยความสามารถตนเอง
- บุญเก่าคุ้มครอง → แม้จะมีเคราะห์ แต่ไม่ถึงกับสิ้นหนทาง
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ทุกข์ใหญ่ → ชีวิตเจออุปสรรคหนัก มีวิบากกรรมติดตาม
- รำคาญใจ–กังวล → ทำให้จิตใจไม่สงบ มักเจอเรื่องกดดัน
- ภาระมาก → ต้องรับผิดชอบเกินกำลัง
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีกุมภ์ เป็นราศีธาตุลม หมายถึง ความคิดเสรี มิตรสหาย เครือข่ายสังคม
- เมื่อพระเกตุ (ดาวบุญ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–ลี้ลับ) มาสถิต → ทำให้ชีวิตเกี่ยวข้องกับเรื่อง “บุญกรรม–วิบาก–เคราะห์ใหญ่” แต่ในขณะเดียวกันก็มอบ ปัญญา–ไหวพริบ–การเอาตัวรอด
- พลังลมของกุมภ์ บวกกับอากาศของพระเกตุ ทำให้ชีวิตวุ่นวาย แต่ก็ “หมุนแก้ปัญหาได้ไว”
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีกุมภ์ → ทุกข์ใหญ่–เคราะห์กรรม–ไหวพริบดี ชีวิตมีอุปสรรคมาก แต่เจ้าชาตาแก้ไขได้ด้วยปัญญาและความเฉลียวฉลาด
คำพยากรณ์ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมีน จากกลอนพยากรณ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบายขยายความ
๑๒. ราศี " มีน " พระเกตุมหาจักร ผู้นั้นมักกล้าหาญไม่คร้านหนี
ทั้งชายหญิงรักใคร่ในความดี สมบัติมีมูลมองปกครองนาน
แต่ว่ามีนิสัยฤทัยมุ่ง มักใฝ่สูงยกตนให้เทียมท่าน
คุณพระเกตุมีแสดงแห่งตำนาน โหราจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์
ความหมายดั้งเดิม (กลอนตำรา)
- “ราศีมีน พระเกตุมหาจักร” → พระเกตุในราศีนี้ได้ตำแหน่ง มหาจักร ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ มีอำนาจเด่น
- “ผู้นั้นมักกล้าหาญไม่คร้านหนี” → ใจกล้า ไม่เกรงกลัว ไม่ถอยหนี
- “ทั้งชายหญิงรักใคร่ในความดี” → มีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนทั่วไป เพราะคุณธรรมความดี
- “สมบัติมีมูลมองปกครองนาน” → มีทรัพย์สมบัติและสามารถรักษา คุมครองไว้ได้
- “แต่ว่ามีนิสัยฤทัยมุ่ง มักใฝ่สูงยกตนให้เทียมท่าน” → โทษคือ มักทะเยอทะยานเกินไป ชอบยกตนเสมอผู้อื่น
- “คุณพระเกตุมีแสดงแห่งตำนาน โหราจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์” → ยืนยันถึงคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเกตุในตำแหน่งนี้
ผลเชิงบวก (คุณ)
- มหาจักร → เป็นตำแหน่งใหญ่ มีพลังส่งเสริมบุญบารมีอย่างมาก
- กล้าหาญ–มั่นใจ → ไม่กลัวอุปสรรค พร้อมสู้
- เป็นที่รักของคน → ทั้งชายหญิงรักใคร่ เพราะความจริงใจและคุณธรรม
- สมบัติและอำนาจมั่นคง → มีโอกาสสร้างฐานะใหญ่ คงอยู่ได้นาน
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ทะเยอทะยานสูง → มักยกตนเสมอผู้อื่น
- ถือศักดิ์ศรีเกินไป → อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง
- ใฝ่สูงเกินกำลัง → ทำให้เหน็ดเหนื่อยหรือล้มเหลวได้หากไม่พอเหมาะ
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์ไทย
- ราศีมีน เป็นราศีธาตุน้ำ มีความอ่อนโยน เมตตา ศรัทธา
- พระเกตุ (ธาตุอากาศ) เมื่อนั่งตำแหน่ง มหาจักร ในธาตุน้ำ → เสริมให้เจ้าชาตา “กล้าหาญ แต่เมตตา” เหมือนนักบุญนักสู้
- ผลจึงผสมระหว่าง บารมีด้านคุณธรรม กับ ความทะเยอทะยานทางโลก
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) สถิตราศีมีน → มหาจักร–กล้าหาญ–คนรัก–ทรัพย์มั่นคง แต่ควรระวัง ทะเยอทะยาน–ใฝ่สูง–ยกตนเสมอท่าน
ตำแหน่งของ ดาวเกตุ (๙) สถิต ๑๒ ราศี
หมายเหตุ คำว่า อุจจาวิลาศ, มหาอุจจ์, เกษตร, มหาจักร เป็นตำแหน่งดาวสำคัญที่โบราณาจารย์ยกไว้ให้ดาวเกตุ (๙) ในราศีต่าง ๆ ส่วนราศีที่ไม่ได้ระบุตำแหน่งพิเศษ ก็ให้ผลตามลักษณะบุญบารมี–คุณธรรม–ลี้ลับของดาวเกตุ
คำประพันธ์การพยากรณ์ดาวพระเกตุจร ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ ซึ่งท่านมักแต่งเป็นกลอนเพื่อให้จำง่ายและตีความได้สะดวก
๑. ความหมายของกลอน
“พระเกตุทับสุริยาดังว่าขาน ถึงแม้นมีหลักฐานสักปานไหน ต้องวิบัติขัดเคืองรำคาญใจ มักจำไกลจากคู่อยู่สำราญ”
- หาก พระเกตุจรทับอาทิตย์ (๑) → เจ้าชาตาจะเกิดความทุกข์ใจ ขัดเคือง รำคาญในชีวิต
- แม้จะมีฐานะหรือหลักทรัพย์ดี ก็เกิดอุปสรรคจนเสียความสุข
- มักมีเหตุให้ ห่างเหินคู่ครอง หรือความรักไม่ราบรื่น
“เจ้าชาตาเป็นสตรีจะมีไข้ ระวังไว้ทับระดูดังว่าขาน หรือระดูทับไข้ใฝ่รุกราน ให้ทำทานปล่อยสัตว์กำจัดภัย”
- หากเจ้าชาตาเป็นสตรี → ต้องระวัง โรคภัยเกี่ยวกับระดู–ประจำเดือน หรือโรคในช่องท้องมดลูก
- อาจเกิดอาการเจ็บป่วยเรื้อรังเมื่อพระเกตุจรทับอาทิตย์
- วิธีแก้เคล็ดตามตำรา → ทำบุญปล่อยสัตว์ ทำทาน เพื่อบรรเทากรรม
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- พระเกตุ (๙) = ดาวบุญ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–เคราะห์ลี้ลับ
- อาทิตย์ (๑) = ตัวตน–เกียรติ–บิดา–สุขภาพ (โดยเฉพาะหัวใจ/โลหิต)
- เมื่อเกตุจรทับอาทิตย์ → ความสว่าง (๑) ถูกบดบังด้วยเงาแห่งเกตุ = ชีวิตช่วงนั้นมักขุ่นมัว เจ็บป่วย หรือเสียชื่อเสียง
- สำหรับสุภาพสตรี → อาทิตย์ยังสัมพันธ์กับระบบฮอร์โมน–การให้กำเนิด → จึงตีความออกมาเป็นปัญหาเรื่องระดู/สุขภาพสตรี
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับอาทิตย์ (๑) → ขัดเคือง–ห่างคู่–สุขภาพเสีย
- ชาย: เครียด รำคาญใจ ชีวิตติดขัด
- หญิง: ระวังโรคประจำเดือน/มดลูก
- วิธีแก้: ทำทาน ปล่อยสัตว์ สร้างบุญเพื่อลดเคราะห์
๒. คำพยากรณ์ พระเกตุ (๙) จรต้องจันทร์ (๒) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบาย
ความหมายจากกลอน
“พระเกตุต้องจันทราอาภัพโชค ทั้งมีโรคเบียนเบียดเสียดกษัย พึงระมัดระวังข้างจิตใจ จะมีภัย เพราะบุตรภรรยา”
- พระเกตุจรทับจันทร์ (๒) = ชีวิตอาภัพโชค ไม่ราบรื่น มีอุปสรรค
- สุขภาพกาย–ใจเสื่อมลง โรคภัยถามหา
- ต้องระวังด้าน จิตใจ → เกิดความฟุ้งซ่าน ว้าวุ่น ซึมเศร้า หรือหวาดระแวง
- ภัยที่เกิดขึ้นมักเกี่ยวข้องกับ บุตร–ภรรยา–ครอบครัวฝ่ายหญิง เช่น ปัญหาในบ้าน ความสัมพันธ์สั่นคลอน
ผลเชิงบวก (คุณ)
แม้กลอนเน้นโทษ แต่ในแง่หนึ่ง พระเกตุ (๙) คือดาวบุญ → หากเจ้าชาตารู้จักทำบุญ อุทิศส่วนกุศล หรือสร้างกุศลเกี่ยวกับ สตรี–มารดา–เด็กกำพร้า จะช่วยเปลี่ยนเคราะห์ให้เป็นคุณได้
ผลเชิงลบ (โทษ)
- โชคอาภัพ → ลาภผลไม่เด่นในช่วงนั้น
- โรคภัยรุมเร้า → โดยเฉพาะโรคทางประสาท–จิตใจ
- ภัยจากบุตรภรรยา → ทะเลาะวิวาท หรือต้องเดือดร้อนเพราะคนในครอบครัว
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- จันทร์ (๒) = ตัวแทนแม่–ภรรยา–สตรี–จิตใจ–อารมณ์
- เมื่อพระเกตุ (๙) จรทับจันทร์ → สิ่งศักดิ์สิทธิ์/เคราะห์กรรม มาส่งผลต่อจิตใจและผู้หญิงในชีวิตเจ้าชาตา
- จึงเกิดเป็นเคราะห์เกี่ยวกับ “ใจ–แม่–เมีย–ลูก” ตามบทกลอน
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับจันทร์ (๒) → โชคอาภัพ–จิตใจว้าวุ่น–ทุกข์เพราะบุตรภรรยา วิธีแก้เคล็ด: ทำบุญเกี่ยวกับ มารดา–สตรี–เด็กกำพร้า เพื่อบรรเทาเคราะห์
คำพยากรณ์ พระเกตุ (๙) จรทับอังคาร (๓) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ พร้อมคำอธิบาย
ความหมายจากกลอน
“พระเกตุจรถึงอังคารอาการหนัก เพื่อนที่รักจะเป็นศัตรูหนา ศัตรูเก่าก่อนนี้จักมีมา จะบีฑาสารพัดให้ขัดเคือง”
- เมื่อ พระเกตุจรทับอังคาร (๓) → ถือว่า “อาการหนัก”
- เพื่อนที่เคยรักกัน → พลิกเป็นศัตรู ขัดแย้งกันง่าย
- ศัตรูเก่าจะหวนกลับมา ก่อเรื่องวุ่นวาย
- ถูกบีบคั้นทั้งด้านสังคมและการทำงาน เกิดความขัดเคืองใจบ่อย
ผลเชิงบวก (คุณ)
แม้บทกลอนนี้เน้นด้านโทษ แต่ข้อดีแฝงคือ:
- ทำให้เจ้าชาตารู้จักระวังตน ไม่ประมาทต่อคนใกล้ชิด
- หากใช้ ปัญญา–สติ–ศีลธรรม จะเปลี่ยนพลังร้ายให้กลายเป็นแรงผลักดันในการต่อสู้ อดทน
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ศัตรูเพื่อนฝูง → เพื่อนกลายเป็นภัย ขัดแย้งง่าย
- ศัตรูเก่ากลับมา → เรื่องราวเก่า ๆ หวนกลับมาก่อความเดือดร้อน
- ขัดเคืองใจ → สังคม/งานเต็มไปด้วยการปะทะ ความบาดหมาง
- อังคารยังหมายถึง คดีความ–การผ่าตัด–อุบัติเหตุ → ช่วงนี้ควรระวังเป็นพิเศษ
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- อังคาร (๓) = ดาวแห่งพละกำลัง การต่อสู้ การศึก ศัตรู และอุบัติเหตุ
- เมื่อพระเกตุ (๙) จรมาทับ → เคราะห์กรรมเก่า (เกตุ) มาปลุกศัตรู (อังคาร)
- จึงให้ผลด้าน “ศัตรูเก่า–คดีความ–การปะทะ–ภัยอุบัติเหตุ”
- ถือเป็นจังหวะที่ต้อง ระวังความรุนแรง–อุบัติเหตุเลือดตกยางออก
สรุปสั้น ๆ
พระเกตุจรทับอังคาร (๓) → อาการหนัก–เพื่อนกลายเป็นศัตรู–ศัตรูเก่าหวนคืน–ขัดเคืองรอบด้าน วิธีแก้เคล็ด: ควรทำบุญเกี่ยวกับ ทหาร–ตำรวจ–ผู้บาดเจ็บ–โรงพยาบาล หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อลดแรงเคราะห์จากอังคาร
พระเกตุ (๙) จรทับพุธ (๔) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
ความหมายจากกลอน
“เกตุถึงพุธหยุดลงทุนหมุนไม่ออก ทั้งในนอกยุ่งไข้นัยน์ตาเหลือง อีกสินทรัพย์นับอนันต์พลันหมดเปลือง จะแค้นเคืองเพราะภรรยาและข้าคน”
- เกตุจรถึงพุธ → การเงินติดขัด การลงทุนหยุดชะงัก “หมุนไม่ออก”
- “ทั้งในนอกยุ่งไข้นัยน์ตาเหลือง” → มีเคราะห์ทั้งในบ้าน–นอกบ้าน ป่วยไข้ โดยเฉพาะโรคตา–ตับ–น้ำดี
- “สินทรัพย์นับอนันต์พลันหมดเปลือง” → ทรัพย์สินสูญหาย เสียหาย ขาดทุน
- “แค้นเคืองเพราะภรรยาและข้าคน” → เกิดปัญหาขัดแย้งในครอบครัวกับคู่ครอง หรือกับลูกน้อง บริวาร
ผลเชิงบวก (คุณ)
แม้กลอนจะเน้นโทษ แต่หากเจ้าชาตาใช้สติและระวัง:
- จะได้เรียนรู้ การจัดการทรัพย์–การเงิน อย่างรอบคอบ
- เป็นช่วงเวลาฝึก “อดทน–ไม่โลภ” และแก้ปัญหาด้วยปัญญา (พุธ = ดาวแห่งสติปัญญา)
ผลเชิงลบ (โทษ)
- การเงินติดขัด → ลงทุนไม่ออก หมุนเงินไม่คล่อง
- โรคภัย → โดยเฉพาะเกี่ยวกับตา–ตับ–น้ำดี → อาจมีอาการตาเหลือง ดีซ่าน
- ทรัพย์สินรั่วไหล → สูญเสียกะทันหัน ไม่เหลือเก็บ
- ขัดแย้งในบ้าน → มีปัญหากับภรรยา–ลูกน้อง–ผู้ใต้บังคับบัญชา
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- พุธ (๔) = ดาวการเงิน–การสื่อสาร–สติปัญญา–บริวาร
- เมื่อพระเกตุ (๙) จรมาทับ → เคราะห์กรรมมาบั่นทอนพลังพุธ = การเงินสะดุด คิดผิดพลาด เกิดขัดแย้งกับผู้ใกล้ชิด
- โรคตา–ตับ สัมพันธ์กับพุธในเชิงแพทย์แผนโบราณ → สะท้อนผ่านคำว่า “นัยน์ตาเหลือง”
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับพุธ (๔) → การเงินติดขัด–เจ็บป่วยตา/ตับ–ทรัพย์รั่วไหล–ทะเลาะคู่ครอง/บริวาร ทางแก้ → ทำบุญเกี่ยวกับ แสงสว่าง–ดวงตา–ผู้ป่วยโรคตับ/โรงพยาบาล และใช้สติปัญญาควบคุมการใช้จ่าย ไม่ลงทุนเสี่ยงในช่วงนี้
พระเกตุ (๙) จรทับดาวพฤหัส(๕) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
ความหมายจากกลอน
“เกตุจรสู่ครูไซร้ไม่มีสุข จะเกิดทุกข์เพราะญาติปราศจากผล เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออำพรางตน ถ้าดิ้นรนหาผู้ใหญ่พึงไตร่ตรอง”
- พระเกตุ (๙) จรทับพฤหัส (๕) → ชีวิตไม่ราบรื่น “ไม่มีสุข”
- เกิด ทุกข์เพราะญาติ → ญาติพี่น้อง คนในครอบครัวไม่ช่วยเหลือ หรือสร้างภาระ
- เพื่อนสนิทไม่จริงใจ → มีการหลอกลวง ปิดบัง
- ผู้ใหญ่ช่วยก็ต้องระวัง → อาจได้ผู้ใหญ่ไม่จริงใจ ช่วยแล้วกลายเป็นโทษ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- พระเกตุเกี่ยวกับ “บุญ–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–เคราะห์กรรม”
- พฤหัสเป็น “ครู–ธรรมะ–ศีล–ปัญญา” เมื่อสองดวงมาพบกัน ถึงจะมีเคราะห์ แต่ก็ถือเป็น โอกาสแห่งการเรียนรู้ธรรมะ/ปัญญา ทำให้เจ้าชาตาเข้าใจโลกและคนมากขึ้น
ผลเชิงลบ (โทษ)
- ญาติไม่ช่วย → ความสัมพันธ์ในครอบครัวอาจเกิดปัญหา
- เพื่อนหลอก → มิตรใกล้ชิดกลับไม่ซื่อสัตย์
- ผู้ใหญ่ไม่จริงใจ → หากพึ่งพาผู้ใหญ่โดยไม่ไตร่ตรอง อาจถูกเอาเปรียบ
- ศรัทธาสั่นคลอน → พฤหัสคือดาวศรัทธา เมื่อเกตุจรมาทับ อาจทำให้ความเชื่อหรือความมั่นใจในครูบาอาจารย์สั่นไหว
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- พฤหัส (๕) = ปัญญา ศาสนา ครูบาอาจารย์ คุณธรรม กฎหมาย
- เมื่อพระเกตุ (๙) จรมาทับ → เคราะห์กรรมมาแทรก ทำให้ “คุณธรรม–ศรัทธา–ครูบาอาจารย์” ถูกทดสอบ
- เจ้าชาตาอาจเจอ “ครูไม่จริง–ศาสดาเทียม–ผู้ใหญ่หลอก” ต้องใช้สติปัญญาพิจารณาให้ดี
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับพฤหัส (๕) → ทุกข์เพราะญาติ–เพื่อนหลอก–ผู้ใหญ่ไม่จริงใจ ทางแก้ → พึ่งครูที่แท้จริง หมั่นทำบุญกับ พระสงฆ์–ครูบาอาจารย์–สถานศึกษา และยึดหลักธรรมเป็นเกราะคุ้มครอง
พระเกตุ (๙) จรทับศุกร์ (๖) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
ความหมายจากกลอน
“พระเกตุสู่คู่ศุกร์จะทุกข์ยาก เกิดลำบากเรื่องทรัพย์ทั้งหลายผอง พึงระวังโจรร้ายจะหมายปอง ทรัพย์สิ่งของเผลอหายไม่วายเว้น”
- เมื่อ พระเกตุจรทับศุกร์ (๖) → ชีวิตมีความทุกข์ยาก
- ลำบากเรื่องทรัพย์ → การเงินติดขัด หรือเสียทรัพย์ไปโดยง่าย
- โจรร้ายหมายปอง → เสี่ยงถูกลักขโมย หรือถูกฉ้อโกง
- ทรัพย์หาย → เผลอแล้วเสียของ สูญเสียข้าวของอยู่เสมอ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- ทำให้เจ้าชาตาเรียนรู้เรื่องการใช้ทรัพย์อย่างระมัดระวัง
- ถ้าช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องทรัพย์ เช่น การทำบุญทาน จะพลิกวิบัติให้เป็นคุณ
- ศุกร์เป็นดาวแห่งความรัก → เคราะห์นี้อาจเตือนให้ระวังความสัมพันธ์ที่แลกด้วยผลประโยชน์ จะเป็นบทเรียนสำคัญ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- การเงินลำบาก → ขาดคล่อง สูญเสียทรัพย์
- โจรภัย–การฉ้อโกง → เสี่ยงถูกโกง ถูกลักทรัพย์
- ทรัพย์หาย → ข้าวของสูญหายง่าย
- ความรักมีปัญหาเพราะเงิน → ศุกร์แทนคู่ครอง → มีโอกาสทะเลาะเรื่องการเงิน
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- ศุกร์ (๖) = คู่ครอง ความรัก ความสุข ทรัพย์สิน ศิลปะ ความรื่นรมย์
- พระเกตุ (๙) จรมาทับ → เคราะห์กรรมเข้ามาบั่นทอนความสุข–ทรัพย์สิน → ทำให้การเงินสะดุด ความรักเดือดร้อน
- หากไม่ระวัง → อาจเสียทั้งทรัพย์และใจ
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับศุกร์ (๖) → การเงินติดขัด–โจรภัย–ทรัพย์หาย–รักเดือดร้อนเพราะเงิน
ทางแก้ → ทำบุญด้วย ทรัพย์–ทานบารมี เช่น บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ สร้างศิลปะ–ศาสนวัตถุ และหมั่นระวังการใช้เงิน/เก็บรักษาทรัพย์อย่างรอบคอบ
พระเกตุ (๙) จรทับเสาร์ (๗) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
ความหมายจากกลอน
“เกตุถึงเสาร์เขาให้ระวังปาก ถึงพูดมากพูดไปไม่สุขสันต์ จะเกิดความเพราะปากเราไม่เบาครัน โอษฐภัยแม่นมั่นจะพลันมี”
- เมื่อ พระเกตุจรทับเสาร์ (๗) → สิ่งที่ต้องระวังคือ วาจา
- พูดมากเกินไป หรือพูดโดยไม่คิด → ทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อน
- “โอษฐภัย” = ภัยจากปาก → การทะเลาะ คดีความ การถูกนินทา
- คำพูดที่ไม่ยั้งใจอาจทำให้เสียหายทั้งชื่อเสียงและความสัมพันธ์
ผลเชิงบวก (คุณ)
- หากเจ้าชาตารู้จัก “สำรวมวาจา” จะกลับกลายเป็นพลังที่ทำให้คนยำเกรง
- ช่วงนี้เหมาะกับการ ภาวนา–สวดมนต์–พูดในสิ่งดีงาม เพื่อเปลี่ยนเคราะห์เป็นคุณ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- โอษฐภัย → ภัยจากปาก คำพูดนำเคราะห์มาให้
- ศัตรูจากวาจา → มีเรื่องทะเลาะ ขัดแย้งเพราะคำพูด
- คดีความ → เสี่ยงถูกฟ้องร้อง นินทา เสียชื่อเสียง
- ทุกข์ใจ → พูดไปแล้วกลับมาเดือดร้อนใจเอง
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- เสาร์ (๗) = ดาวแห่งความทุกข์ ความล่าช้า ความอดทน
- เมื่อพระเกตุ (๙) จรมาทับ → เคราะห์กรรมจะปรากฏผ่าน “คำพูด–ปาก”
- คำพูดที่ไม่สำรวม = เสาร์ให้ผลช้า แต่แรงและมั่นคง → ปัญหาที่เกิดอาจ “ฝังยาว” ไม่จบง่าย
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับเสาร์ (๗) → โอษฐภัย–ทะเลาะ–คดีความ–เสียชื่อเสียง
ทางแก้ → สำรวมวาจา พูดให้น้อย เน้นสวดมนต์–เจริญภาวนา ทำบุญถวายหนังสือสวดมนต์/พระไตรปิฎก และช่วยเหลือผู้พิการทางการพูด/การได้ยิน เพื่อแก้เคราะห์จาก “ปาก”
พระเกตุ (๙) จรทับราหู (๘) จากคำประพันธ์ของ อ. อรุณ เทศถมทรัพย์
ความหมายจากกลอน
“พระเกตุมาราหูดูไม่สวย จะร้อนด้วยที่อยู่ดูบัดสี ถึงเพื่อนบ้านร้านเคียงเสียงไม่ดี จะย่ำยีลักทรัพย์อัปมาณ”
- เมื่อ พระเกตุจรทับราหู (๘) → ถือว่าไม่เป็นมงคลนัก (“ดูไม่สวย”)
- ที่อยู่อาศัยร้อนรุ่ม → บ้านเรือนไม่สงบ อยู่ไม่สุข
- เพื่อนบ้าน–สังคมไม่ดี → มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้าง
- เสี่ยงโจรภัย–การลักขโมย → ถูกย่ำยี เสียทรัพย์ สูญของ
ผลเชิงบวก (คุณ)
- แม้บทกลอนจะเน้นโทษ แต่ก็สะท้อนว่าเป็นช่วง เคราะห์กรรมมาให้รู้จักปล่อยวาง
- หากหันไปพึ่งทางธรรม ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จะช่วยเบาบางเคราะห์ได้
- ราหูสัมพันธ์กับ “ของมืด–ต่างชาติ–สิ่งแปลกใหม่” → ถ้าใช้ด้านบวก อาจได้โอกาสเกี่ยวกับงานต่างประเทศหรือสิ่งลี้ลับ
ผลเชิงลบ (โทษ)
- บ้านเรือนไม่สงบ → บรรยากาศครอบครัวร้อนรุ่ม
- สังคมรอบข้างมีปัญหา → เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน ก่อความเดือดร้อน
- โจรภัย–ลักขโมย → ทรัพย์สินหาย ถูกโกง ถูกเบียดเบียน
- ชื่อเสียงเสื่อม → ราหูสัมพันธ์กับความมัวหมอง อาจถูกนินทา เสื่อมเสีย
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- ราหู (๘) = เงา ความมืด สิ่งไม่เปิดเผย อบายมุข โจรภัย
- พระเกตุ (๙) = บุญเก่า เคราะห์กรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์
- เมื่อสองดวงมาพบกัน → เคราะห์กรรม (เกตุ) ไปเจอกับเงามืด (ราหู) → ชีวิตมักวุ่นวาย ถูกเบียดเบียน สูญเสีย
- โดยเฉพาะด้าน ที่อยู่อาศัย–ทรัพย์สิน–สังคมรอบตัว
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับราหู (๘) → บ้านร้อน–สังคมวุ่น–ทรัพย์สูญ–เสื่อมชื่อเสียง
ทางแก้ → ทำบุญปล่อยสัตว์ใหญ่ (เช่น โค กระบือ) หรือบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้กลางคืน จุดประทีป–โคมไฟสว่างในที่มืด และหมั่นภาวนาพระรัตนตรัย เพื่อขจัดเงาราหู
ตอนสำคัญที่สุดของคำประพันธ์พระเกตุจร โดย อ. อรุณ เทศถมทรัพย์ กล่าวถึง พระเกตุ (๙) จรทับพระเกตุเดิม (๙) และความหมายเชิงสรุปของเกตุจรทั้งหมด
ความหมายจากกลอน
“เกตุถึงเกตุเป็นเหตุเกิดอุบาทว์ เช่นผ้าขาดมุสิกามากัดผลาญ กล้วยออกปลี กลางต้นยลรำคาญ สัตว์จัณฑาลขึ้นเคหาน่าตกใจ”
- เมื่อ พระเกตุจรทับพระเกตุเดิม → มักเกิดเคราะห์อุบาทว์ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็มากวนใจ
- เปรียบเหมือน ผ้าขาด → สิ่งที่มีค่าเสียหาย
- มุสิกากัดผลาญ → ศัตรูเล็กน้อยก่อเรื่องใหญ่
- กล้วยออกปลีตรงกลางต้น → เรื่องผิดธรรมชาติ เกิดเหตุวิปลาส
- สัตว์จัณฑาลขึ้นบ้าน → เจอคนไม่ดี/ศัตรูต่ำช้าก่อกวน
“แม้นทำรับกลับโทษเป็นคุณอยู่ ถามท่านดูว่าจะทำเป็นไฉน แม้นเกตุจรต้องพระเคราะห์พระองค์ใด พระนั้นไซร้เป็นเดชศรีมนตรีจร”
- หากเจ้าชาตา รู้จักแก้เคล็ด–ทำบุญรับเคราะห์ เคราะห์ร้ายจะกลับกลายเป็นคุณ
- เมื่อเกตุจรสัมพันธ์กับพระเคราะห์อื่น ๆ → ดาวที่ถูกร่วมก็กลายเป็น ดาวเสริมอำนาจ บารมี (มนตรีจร)
“เกตุก็กลายคลายโทษที่ร้ายนัก ให้ผ่อนพักเป็นสุขสโมสร ถึงต้นร้ายปลายก็มีดีแน่นอน เรื่องเกตุจรหวงกันมาช้านานเอย ..”
- แม้ตอนต้นของเกตุจรจะ ร้าย → ให้เคราะห์ เสียหาย วุ่นวาย
- แต่ตอนท้ายมัก กลับกลายเป็นดี → ได้ลาภ ได้บุญ ได้ทางออก
- เป็นธรรมชาติของพระเกตุที่โบราณจารย์ย้ำว่า “ต้นร้ายปลายดี”
- จึงเป็นดาวที่ให้ทั้งเคราะห์และคุณ ขึ้นอยู่กับการตั้งสติและทำบุญแก้ไข
ผลเชิงบวก (คุณ)
- แม้เริ่มต้นร้าย แต่ลงท้ายมักกลับเป็นดี
- หากเกตุจรสัมพันธ์กับดาวใด → ดาวนั้นจะกลายเป็นผู้ช่วยอุปถัมภ์
- สอนให้เจ้าชาตาใช้เคราะห์เป็นบทเรียน เตรียมใจสู่ความสำเร็จภายหลัง
ผลเชิงลบ (โทษ)
- เกตุทับเกตุ = เคราะห์อุบาทว์ → เหตุการณ์วิปลาส วุ่นวายไม่ปกติ
- สูญเสียของ/ทรัพย์ เสียชื่อเสียงจากเรื่องเล็กน้อย
- เจอคนไม่ดีเข้ามาสร้างปัญหา
วิเคราะห์เชิงโหราศาสตร์
- พระเกตุ (๙) = ดาวบุญ–เคราะห์กรรม–สิ่งศักดิ์สิทธิ์–สิ่งลี้ลับ
- เมื่อจรมาทับตนเอง → พลังกรรมเดิมถูกปลุกขึ้นมาอย่างแรง
- ทำให้เจ้าชาตาเผชิญ วิบากกรรม–อุปสรรค–เหตุแปลกประหลาด แต่ก็เพื่อผลักดันไปสู่ความดีตอนปลาย
สรุปสั้น ๆ พระเกตุจรทับพระเกตุเดิม (๙) → เคราะห์อุบาทว์–เหตุวิปลาส–เจอศัตรูเล็กน้อยก่อกวน แต่สุดท้าย ปลายกลับดี → หากทำบุญ–ใช้สติ ดาวเกตุจะพลิกเคราะห์เป็นคุณ
การตีความ ดาวเกตุ (๙) ถึงลัคนา และเล็งลัคนา (โดยเฉพาะในภพปัตนิ) พร้อมขยายความตามหลักโหราศาสตร์ไทย
การพยากรณ์ ดาวเกตุ (๙) ถึงลัคนา / เล็งลัคนา
๑. ดาวเกตุ (๙) ทับลัคนา
- ทัศนคติต่อชาวต่างชาติ → ชอบคนต่างชาติ ถูกชาตากับชาวต่างประเทศ ทำงานกับต่างชาติได้ดี
- บุคลิกและความคิด → แสดงออกเด่น ชอบทำตัวต่างจากคนทั่วไป มีความคิดสร้างสรรค์แบบ “พิสดาร–แปลกใหม่” มากกว่าคนที่มีดาวศุกร์ถึงลัคนา
- ความสัมพันธ์ → มีความต้องการทางเพศสูง สนใจสิ่งแปลก ๆ เกี่ยวกับความรัก
- ความสามารถพิเศษ → เก่งด้านการออกแบบ–ศิลปะ–ความงามที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเสื้อผ้า ทรงผม ของโบราณ ของสะสม
๒. ดาวเกตุ (๙) เล็งลัคนา (อยู่ภพปัตนิ)
- คู่ครอง–ความรัก
- ชอบคู่ครองที่เป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนในชาติเดียวกัน
- มีแนวโน้มได้คู่ที่ อายุมากกว่า → แต่หลังอายุ ๓๐ ปี ชีวิตคู่มักไม่ราบรื่น
- ถ้าไม่เจอคู่ที่ “ถูกใจ” อาจเลือกอยู่คนเดียว → มีโอกาส “ไร้คู่” ได้
- ความรักมักเร่าร้อน รุนแรง และบางครั้ง “วิปริต” โดยเฉพาะถ้าร่วมกับดาวบาปเคราะห์ (อังคาร–เสาร์–ราหู)
- วัยและบุคลิก
- ก่อนอายุ ๓๐ → บุคลิกชอบ “ซ่า–ล้น–เด่นกว่าคนอื่น” สนใจเพศตรงข้ามที่โดดเด่นกว่าวัยเดียวกัน
- หลังอายุ ๓๐ → บุคลิกเปลี่ยนไปเป็น “สมถะ–สงบ–ชอบของเก่า–โบราณ–พระสงฆ์สูงวัย”
- ลักษณะเด่นเฉพาะ
- มีอารมณ์ “สองเพศ” (androgynous) → สนใจความงามในหลายรูปแบบ
- สร้างสรรค์ความสวยงามแบบ พิสดาร–แปลก–ไม่ซ้ำใคร
- เน้นความสัมพันธ์แบบ “ต่างชาติ–ต่างวัย”
๓. สรุปความแตกต่าง
สรุปสั้น ๆ ดาวเกตุ (๙) ทับ/เล็งลัคนา →
- ชีวิตเกี่ยวข้องกับ “ต่างชาติ–ต่างวัย–สิ่งแปลก–ของโบราณ–ศิลปะ”
- วัยหนุ่มสาว “ซ่า–เด่น–รักเร่าร้อน”
- หลัง ๓๐ ปี “สงบ–สมถะ–สนใจของเก่าและพระสงฆ์”
- เรื่องความรักมักไม่ธรรมดา โดยเฉพาะถ้ามีดาวบาปเคราะห์ร่วม
#สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ตามระบบธาตุและเรือนชาตา ตามหลักของท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(ุอุตรภัทร์) อาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย นำหลักเคล็ดลับการพยากรณ์ตามหลักระบบธาตุของอาจารย์บรรเทา มาใช้ในการวิเคราะห์ทั้งในดวงชาตาเดิม และดวงชาตาจร ทำให้การพยากรณ์ดวงชาตาเกิดความแม่นยำมากในการพยากรณ์ดวงชาตาเดิมและการพยากรณ์ดวงชาตาจร การเชื่อมโยงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจรทำให้คำพยากรณ์ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมทั่งสอนในการนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไทยไปใช้ในการให้ฤกษ์อีกด้วย เป็นหลักสูตรเดียวที่เรียนครบทั้งการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม การเชื่อมโนงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจร รวมทั้งการให้ฤกษ์ต่าง ๆ อาจารย์จะเปิดสอนรุ่นที่ ๑๙ เริ่มเรียนครั้งที่ ๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เรียนจำนวน ๑๐ อาทิตย์ หลังจากจบการสอนในแต่ละสัปดาห์ผู้เรียนจะได้รับบันทึกการสอน(vdo)และเอกสารประกอบการสอนทางอีเมล์ เพื่อใช้ทบทวนการเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ดีอย่างเป็นระบบ สนใจสมัครเรียนรุ่นนี้ หรือต้องการตรวจสอบดวงชาตา ให้อินบ๊อก : m.me/arjarnth