ความหมายของดาวมฤตยู(๐)

ดาวมฤตยู(๐) หรือดาวยูเรนัส(Uranus) สถิตในเรือนภพต่าง ๆ จะมีความหมายอย่างไร

ความหมายของดาวมฤตยู(๐) หรือ ดาวยูเรนัส (Uranus)

ดาวมฤตยู(๐) หรือ ดาวยูเรนัส (Uranus)

ดาวมฤตยู เป็นดาวเคราะห์ที่ใช้เลข ๐ เป็นเครื่องหมาย ท่านบูรพาจารย์ท่านได้ให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยูไว้ว่า  มฤตยูกุมลัคน์มักใจด้าน เมื่อเล็กมักรังควานพาลคนผู้แกะกะชอบกลซนพอดู ขึ้นต้นไม้เกาะไม่อยู่สะเด่าลง

อายุเยาว์ย่างเข้ามัชฌิมววัย ดีใจวาสนาพาเสริมส่ง

มักเป็นโรคอายุไม่ยืนยง ริมปับผาชื้นคงไม่รู้วาย

อีกโรคหนึ่งพึงเข้าใจสนิท คือโรคริดสีดวงทวารมิรู้หาย

ด้วยเวรกรรมทำมาอย่าระคายถ้าดูผิดแล้วไม่ทายต่อไปเอย

.

ดาวมฤตยูในสมัยโบราณท่านโบราณท่านเน้นเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ หรือภัยอาเพศ  ตามคำกลอนที่ว่า ภัยอาเพศทายมฤตยู

.

แต่ในปัจจุบันท่านอาจารย์ซิเซโร ท่านได้ให้คำจำกัดความของดาวมฤตยู(๐) ว่า เป็นดาวที่ครอบงำด้านความคิดอ่านและสติปัญญาของมนุษย์ เช่นเดียวกับดาวพุธ แต่ความคิดอ่านของดาวมฤตยูนั้น เกิดจากสัญชาตญาณ(Instinct) และความคิดฝัน (Imagination)  อันเกิดจากความรู้สึกภายในของตัวเราเอง  คนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู จะเป็นคนที่มีความหยิ่งในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแรงกล้า เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการ ที่มีจิตใจสัมพันธ์อยู่กับสิ่งลึกลับที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้  เป็นนักจิตวิเคราะห์ (psychoanalysis)  และมีอนาคตังสญาณ (สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำ) ต้องการความเป็นอิสระเสรีไม่ขึ้นแก่ใคร ต้องการเป็นตัวเองไม่ว่าในด้านความคิดอ่าน การกระทำและการแสดงออก รักเสรีภาพ เป็นนักประชาธิปไตย มีมนุษยธรรม ชอบแสวงหาและทำสิ่งใหม่ ๆ  เป็นนักต่อสู้และโต้เถียง เพื่อให้เกิดปัญญาความรู้ และไม่ชอบความอคติลำเอียงในทุกเรื่อง

.

ในด้านโรคภัยไข้เจ็บ ดาวมฤตยูจะมีปฏิกิริยาโดยตรงต่อสุขภาพจิตและระบบประสาทอย่างแรงกล้า  มักจะเกิดขึ้นในตอนกลางและตอนปลายของชีวิตมากกว่าวัยเด็กและวัยรุ่น  ลักษณะของโรคภัยไข้เจ็บ จะเป็นโรคที่เข้าใจยาก ยากต่อการรักษาเยียวยา อาการส่วนมากจะเจ็บปวดทางระบบประสาท โรคชักกระตุก  อาการบวมและตีบของอวัยวะ อาการที่เกิดเป็นพัก ๆ แล้วก็หายไปเอง  อาคารเกร็งของกล้ามเนื้อ หรือ ชัก

.

นักโหราศาสตร์ต่างประเทศ ลงความเห็นว่า อาชีพของผู้ที่เกิดมาใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู(๐) ได้แก่อาชีพเหล่านี้

-นักประดิษฐ์ (Inventors)

-ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ (Discoverers)

-ผู้สนับสนุนหรือผู้ส่งเสริม (Promotors)

-ผู้จัดการงานในด้านธุรกิจบันเทิง (Impresarios)

-สาธยากรผู้เจนจบในวิชาการโฆษณา ( Exponents of Publicity)

-นักจิตวิทยา (Psychologists) 

-นักจิตวิเคราะห์( Psycho-Anallysts) 

-นักโหราศาสตร์ (Astrologers) 

-นักสะกดจิต (Hypnotists)

-นักวิชาการลึกลับ (Occultists)

-นักวิชาการเกี่ยวกับจิตและวิญญาณ (Metaphysics)

-นักวิชาการหลอกลวงบางประเภท( Imposters)

ดาวมฤตยู (๐) หรือดาวยูเรนัสในภพต่าง ๆ 

๑. ดาวมฤตยู(๐) กุมลัคนา     แสดงถึงนิสัยแปลกๆ รักอิสระ เอาแต่ใจ มีหัวริเริ่ม หุนหันพลันแล่น อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย ชอบสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มีความคิดเห็นเป็นแนววิทยาศาสตร์ ยูเรนัสในภพตนุนี้ แสดงถึงนิสัยแผลงๆ ซึ่งผิดกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ที่กุมลัคน์ เพิ่มกระทันหันทันทีทันใด จึงทำให้มีนิสัยใจร้อนตอนเริ่มต้น ว่องไว แต่อาจแสดงออกไปในทางเสีย(ถ้ามีดาวเคราะห์อื่นให้โทษ) ทำให้มีนิสัยบ๊องๆ วิตถาร หัวรั้น ท่าทางโอ้อวด อวดดี ขวานผ่าซาก โดยทั่วไปแล้วชอบของใหม่ๆ แปลกๆ บางครั้งก็กลับกันหันไปสนใจของโบราณ แล้วแต่จังหวะ มักสนใจศาสตร์ลี้ลับ มักโยกย้ายบ่อย(อันนี้ควรพิจารณาอื่นๆ ประกอบด้วยเช่น ภพพันธุ และ ภพกัมมะ) ยูเรนัสมีข้อสังเกตอีกอย่างคือไม่ค่อยจะดีในชีวิตคู่(เพราะเล็งกับภพปัตนิ) และควรดูความสัมพันธ์กับราศีที่ยูเรนัสกุมลัคน์ด้วยว่าอยู่ราศีอะไร และ ดาวดวงอื่นที่มาทำมุมกับเจ้าเรือนลัคน์ด้วย

๒. ดาวมฤตยู(๐) สถิตในภพกดุมภะ(การเงิน)

   แสดงถึงโชคลาภในทางการเงินที่มักขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่ยากถึงคราวดีก็ดีอย่างน่าตกใจ เวลาร้ายก็ร้ายอย่างน่าใจหาย เป็นที่ยากที่จะกำหนดรายได้และอาชีพที่ตายตัวลงไป ถ้ามีเกณฑ์สัมพันธ์ที่ดีกับดาวศุกร์ก็มักจะชอบงานศิลป์ และรายได้การเงินมักขึ้นอยู่กับเพื่อนๆ มิตรสหาย หากดาวมฤตยู(๐) ได้ตำแหน่งที่ดี เช่นเป็นวรโคตมนวางค์   แสดงถึงเจ้าชาตาอาจจะได้ลาภลอยและการมีโชคแบบฟลุ๊คๆ เฉพาะอย่างยิ่งถ้าสัมพันธ์ที่ดีหรือกุมกับดาวพฤหัสหรือดาวพลูโต 

๓. ดาวมฤตยู(๐) ในภพสหัชชะ      แสดงถึงการรักพวกพร้อง รักอิสระเสรีอย่างมาก ชอบการเดินทางท่องเที่ยว หรือ จะได้เดินทางไปไหนมาไหนอย่างไม่ได้คาดคิดหรือเตรียมตัวมาก่อน มีสาเหตุแปลกๆ ทำให้ได้เดินทาง แต่ถ้ามีเกณฑ์ไม่ดีจากบาปเคราะห์ก็มักจะมีเรื่องยุ่งยากตามมา ทางญาติพี่น้องก็มีความสัมพันธ์กันแบบแปลกๆ จนบางครั้งทำให้ไม่ลงรอยกัน

     ดาวมฤตยู(๐) ในภพที่ 3 (สหัขชะ)  นี้ ถ้ามีดาวอังคารหรือดาวเสาร์ ทำมุมไม่ดี โดยเฉพาะเป็นเป็น ๔ (จตุโกณ) กับดาวมฤตยู  (๐)  มักจะประสบอุบัติเหตุขณะเดินทาง มีกรณีพิพาทบาดหมางกับญาติพี่น้องอย่างรุนแรง อีกอันหนึ่ง ถ้ามีดาวพุธหรือจันทร์ ทำมุมไม่ดี มักเป็นคนชอบวิพากวิจารณ์ผู้อื่น มีความคิดเห็นแปลกๆขวางๆ พูดเร็ว คิดเร็ว ระวังโรคประสาท

๔. ดาวมฤตยู(๐) ในภพพันธุ   แสดงถึงชีวิตทางครอบครัว ที่อยู่อาศัยเหล่านี้มักไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงบ่อย หาที่ถูกใจหรือที่แน่นอนยาก ในถิ่นเดิมที่กำเนิดไม่ถูกกับเจ้าชะตา ไปอยู่ที่อื่นจะได้ดี มักจะพลัดพรากจากบิดา มารดา ไม่ได้อยู่ร่วมกันตลอดในชีวิต ถ้ามีดาวอังคารหรือเสาร์ กุมหรือทำมุมให้โทษ อุบัติเหตุที่จะได้รับมักเกิดขึ้นในบ้านของตนเอง ถ้าดาวเนปจูน ทำมุมเสียกับยูเรนัสในภพนี้ ก็มักประสบกับภัยน้ำท่วมบ่อย จะถูกหลอกต้มตุ๋น ถูกขโมยบ่อย ถูกโกงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามีดาวพฤหัสกุมหรือทำมุมเสีย มักจะมีเรื่องเสียหายจากความรีบร้อนสะเพร่า คิดอ่านคาดการณ์ผิด มีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับกฏหมาย มีภัยจากพายุ ฟ้าผ่า การหมุนเงินเกินตัวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

๕.ดาวมฤตยู(๐) ในภพปุตตะ    แสดงถึงเจ้าชาตามีความคิดเห็นทัศนะแปลกๆ ในด้านความรัก ชอบค้นคว้าศึกษาในมุมมองของเพศตรงข้ามอาจจะรักชอบใครอย่างไม่ต้องมีเหตุผล เอาแน่ยากในเรื่องความรัก มักมีความสัมพันธ์ทางเพศในแนวที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น เป็นคนรีบร้อนเอาแต่ใจ มีเรื่องอื้อฉาวในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในด้านบุตรๆคนแรกมักตายหรือเลี้ยงยากหรือไม่ได้อยู่ร่วมกัน หรือมีบุตรบุญธรรม ด้านการเสี่ยงโชคมักจะเสียมากกว่าได้ ในด้านชีวิตการเพลิดเพลิน ชอบความเพลิดเพลินในทางแปลกๆ วิตถารชอบของใหม่แหวกแนว ในด้านโชคลาภมักได้โดยไม่คาดฝัน แต่ต้องมีตำแหน่งดีกับดาวพฤหัส,พลูโต หรือ ดาวเจ้าเรือนของภพกดุมภะ

๖. ดาวมฤตยู(๐) ในภพอริ   แสดงถึงด้านสุขภาพ การเจ็บป่วยด้วยโรคแปลกๆ หาสาเหตุแห่งโรคยาก มักมีโรคประจำตัวเข้าทำนองเป็นเองหายเอง เป็นลูกจ้างใครก็ไม่ได้นานชอบขัดคอกับเจ้านาย รักในอาชีพอิสระไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร

๗. ดาวมฤตยู(๐) ในภพปัตนิ   แสดงถึงการได้คู่ครองที่มีหัวดี มีความสามารถพิเศษในตัวเอง หรือ เก่งในทางใดทางหนึ่ง  ในภพปัตนินี้ มักจะมีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในแบบได้หลับนอนอย่างไม่คาดฝันหรือบังเอิญได้คู่ครองกับคนที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้แต่งงาน   ถ้าเป็นราศีหรือมีดาวมาทำมุมให้โทษ มักจะยุ่งยากในชีวิตสมรส เพราะความเอาแต่ใจตน ความหลงผิดเข้าใจผิด ความระแวงเป็นเหตุ แต่งงานกันแล้วมักหย่าร้างเลิกรากัน บางกรณีอาจถูกทรยศหักหลัง หรือ ตายจากกัน มักเดือนร้อนเพราะคนแปลกหน้า มีศัตรูเกี่ยวกับคนในวงการเมือง  กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ

๘. ดาวมฤตยู(๐) ในภพมรณะ  แสดงถึงมรดกถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดี มักได้ลาภผลแบบแปลกๆ หรือคาดไม่ถึงเกี่ยวกับมรดก ส่วนด้านการเงิน หุ้นส่วน หรือ คู่ครองโดยทั่วๆไปไม่ค่อยดีสำหรับยูเรนัสในภพมรณะนี้ถ้ามีตำแหน่งลอยๆ หรือมีเกณฑ์เสียจะเดือดร้อนเกี่ยวกับการเงินจากคู่ครอง หุ้นส่วนมีเรื่องหรือนำเรื่องเกี่ยวกับการฟ้องร้องมาให้ และยังเกี่ยวกับความตายด้วย คนที่ดาวยูเรนัสอยู่ในภพมรณะนี้ มักจะเป็นคนสนใจในเรื่องการเกิดการตาย เรื่องวิญญาณ เรื่องลึกลับ มีประสบการณ์แปลกๆเกี่ยวกับความฝัน ในทางโรคภัยอันตราย มาจากเรื่องเครื่องจักรกล จากไฟฟ้า จากระเบิด มีโรคเกี่ยวกับหัวใจ อัมพาต โรคประสาท โรคลมบ้าหมู โดยเหตุที่ภพที่ 8 หมายถึงการตาย จึงบ่งบอกถึงการตายอย่างไม่คาดฝัน เป็นปุ๊บตายปั๊บ แต่ก็มีบ้างบางกรณีอาจหมาถึงการตายโหง

๙. ดาวมฤตยู(๐) ในภพศุภะ  แสดงถึงในด้านสติปัญญา เป็นผู้ที่สนใจในศาสตร์ลี้ลับ ปรัขญา หรือ วิชาแปลกๆ มีหัวเป็นนักริเริ่มชอบสิ่งแปลกใหม่ ชอบค้นคว้าถนัดงานวิจัย มีทัศนะคติที่แปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่น บางกรณีมีญาณทัศนะล่วงรู้อนาคตได้เอง ทั่วๆไปคนที่มียูเรนัสอยู่ในภพนี้ มักจะเกี่ยวกับเรื่องต่างประเทศ ต่างแดน มักได้เดินทางไกลอย่างไม่คาดฝัน หรือไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ล่วงหน้า มักได้ประสบการณ์แปลกๆ จากการเดินทาง การติดต่อกับชาวต่างชาติ ชอบพจญภัย  เกี่ยวกับญาติพี่น้องทางฝ่ายคู่ครองไม่ค่อยลงรอยกันหรือเข้ากันยาก (เพราะเป็นภพที่ 3 จากภพปัตนิ)

๑๐.  ดาวมฤตยู(๐) ในภพกัมมะ    แสดงถึงตำแหน่งสำคัญตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งจะต้องอาศัยการพิจารณาและวิเคราะห์ให้ดี ดูจากราศีที่สถิต,การทำมุมของดาวต่างๆ และ ดาวเจ้าเรือนของภพกัมมะนี้ด้วย โดยทั่วๆไป วิถึชีวิตในการทำงานมักแปลกๆ เต็มไปด้วยเหตุการณ์น่าสนใจ และ บางคราวน่าฉงนสงสัย อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยก็ได้ในอาชีพ หน้าที่การงานและสถานะในการงาน(ในบางกรณีมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ต้องดูราศีประกอบ เพราะบางดวง ดาวยูเรนัสในภพนี้อาจจะมีอาชีพอย่างเดียวไปตลอดชีวิตก็ได้) บางกรณีอาจมีอาชีพที่ไม่คาดฝันไม่ได้ตั้งใจมาก่อน เช่นเรียนมาอย่างหนึ่งกลับได้ทำงานอีกอย่างหนึ่ง ชอบทำงานอิสระมากกว่าการเป้นลูกจ้างใคร มักไม่ลงรอยกกับเจ้านาย หรือ หางานถูกใจยาก บางครั้งอาจประกอบอาชีพ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน พลัดพรากจากบ้านเพราะอาชีพเป็นเหตุ นอกจากมีดาวเจ้าเรือนภพพันธุทำมุมดีถึงดาวยูเรนัสด้วย จึงจะไม่พลัดพรากจากที่อยู่อาศัย ถ้าดาวพุธทำมุมดีกับภพนี้ มักจะมีความสามารถในการทำของเก่าให้เป็นของใหม่ สร้างอาชีพใหม่ๆ ขึ้นเอง ถ้าดาวพุธทำมุมเสีย มักมีอาชีพในทางการเขียน นักวิจารณ์ นักสะกดจิตงานเกี่ยวกับซ่อมเครื่องยนต์ งานเกี่ยวกัยวัตถุโบราณ

๑๑. ดาวมฤตยู(๐) ในภพลาภะ   แสดงถึงการสำแดงพลังของยูเรนัสอย่างเต็มพิกัดทุกเรื่องในภพนี้ ดังนั้นจะส่งผลดี หรือ ร้าย ประการใด ต้องดูที่ดาวกุม หรือดาวที่เข้าทำมุมด้วยเป็นหลักใหญ่ ถ้ามีมุมดี ก็จะมีกัลยามิตร มีเพื่อนหัวดีในทางใดทางหนึ่ง อาจมีเพื่อนเป็นคนมีพลังลึกลับหรือมีความรู้ในศาสตร์ลี้ลับ มีเพื่อนเป็นนักประดิษฐ์ค้นคว้า เพื่อนเป็นนักการเมืองแต่ถ้าตำแหน่งไม่ดี จะยุ่งยากเพราะเพื่อน จะแตกแยกห่างเหินกัน คนที่มีดาวยูเรนัสในภพนี้มักทำนายชะตาตามความหมายของยูเรนัสได้เลย และในภพนี้บางกรณีทำให้เจ้าชะตามีความรักแบบวิตถาร มีความรักแบบแปลกๆ

๑๒. ดาวมฤตยู(๐) ในภพวินาสน์   ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีในทางราศี และมุมสัมพันธ์กับดาวดวงอื่นๆ แล้วจะให้ผลดีเกี่ยวกับการงานที่ทำแบบลึกลับซ่อนเล้น งานมืด งานใต้ติน งานผิดกฏหมาย งานเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับ งานเกี่ยวกับสถาบันวิจัย งานค้นคว้า ยูเรนัสในภพนี้จะส่งผลดีกับงานดังกล่าวเท่านั้น นอกจากนี้ยังแสดงถึงเคราะห์ที่เกี่ยวกับสัตว์ใหญ่ ศัตรูที่ลึกลับการเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างไม่คาดฝัน ด้านเสียจะแสดงถึงการพลัดพราก ลี้ภัย การติดคุก เป็นคนมีจิตใจหวาดกลัวหวาดระแวงภัยที่กำลังจะมาถึงมาก

ดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนาและเล็งลัคนาต่างกันอย่างไร

.

๒.๑ ดาวมฤตยู(๐) หากอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด และสิบจากลัคนาหรือจากจันทร์) จะเป็นไปตามคำจำกัดความที่ว่า “ ภัยอาเพททายมฤตยู” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

ดาวมฤตยู(๐) เป็นดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่ง เนื่องจากเป็นดาวที่มีมวล มีสาร มีวงโคจรเป็นของตนเองและอยู่ในระบบสุริยจักรวาล แต่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เนื่องจากอยู่ไกลจากโลกเรามาก เมื่ออยู่ในระบบสุริยจักรวาลและเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง จึงเป็นดาวที่แสดงคุณและโทษแก่คน สัตว์และสิ่งของในโลกนี้ เพราะเป็นดาวเคราะห์ทึ่คนเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การให้คุณและการให้โทษจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน กระทันหัน ไม่มีที่มาและที่ไป

.

สรุป ดาวมฤตยู(๐) จะมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือดาวมฤตยู (๐) เป็นดาวบาปเคราะห์ จึงเป็นดาวมีความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ น่าตื่นเต้น ตกใจ สิ่งใหม่ๆ ทันสมัย แปลกแหวกแนว กระทันหัน ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญญลักษณ์ ของความไม่ครบถ้วน ความขาด ความหงุดหงิด โกรษง่าย ภัยอาเภท ลี้ลับซับซ่อน ซึ่งตรงกันข้ามกับดาวเกตุ(๙) ซึ่งเป็นดาวที่เกินพอดี ดาวมฤตยู (๐) หมายถึงนักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ การปฎิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นธาตุสุญกาศแทนด้วยเลข 0 ดาวมฤตยู (๐) แผ่อิทธิพลถึงลัคนาหรือเจ้าเรือนลัคนา มักเป็นคนอาภัพ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มักมีชีวิตที่ต้องรับใช้ผู้อื่น ชีวิตส่วนตัวมักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฎิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบคบคนที่อายุมากกว่าตน มีญานวิเศษ มีญาณลางสังหรณ์และพลังจิตสูง สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ สามารถอ่านใจคนอื่นได้ถูกต้องแม่นยำ

.

๒.๒ คนที่ดาวมฤตยู(๐) ถึงลัคนา  เป็นคนที่มีความสามารถในการหยั่งรู้จิตใจคนอื่นได้โดยอัตนโนมัต จึงเป็นสาเหตุให้คนที่มีดาวมฤตยู(๐) ถึงลัคนา ทั้งในทางทับลัคนาและเล็งลัคนา จะเป็นคนที่คบคนอื่นยาก แต่หากได้คบใครแล้วจะคบคนนั้นอย่างมั่นคงและจริงใจ เนื่องจากเป็นคนที่มีญาณสังหรณ์แม่นยำ ทำให้เป็นคนช่างติและขี้รำคาญ มักจะรู้สึกหงุดหงิดกับคนใกล้ชิด เนื่องจากมองเห็นจุดอ่อนและปมด้อยหรือข้อเสียของคนอื่น จึงทำให้มีความรู้สึกว่าใคร ๆ ก็ไม่ดี ไม่เหมาะสม ทำให้เป็นคนเลือกมาก สุดท้ายเจอคู้แท้ยาก ไม่ได้แต่งงานสักที

.

คนที่ดาวมฤตยู(๐) กุมลัคนา บางบูรพาจารย์ท่านบอกว่า เป็นดวงกินคู่สมรส หากไม่ตายจากกันก็อาจจะต้องเลิกราจากกัน จุดสำคัญก็คือคนที่ดาวมฤตยู(๐) กุมลัคนา จะเป็นคนขี้หงุดหงิดและเอาใจยาก เป็นคนเรื่องมาก ช่างติ มองเห็นข้อเสียของคนอื่น ทำให้เป็นคนมีมาตรฐานสูงในการเลือกคู่ จะเป็นคนเลือกมาก ทำให้มีโอกาสในการแต่งงานยาก เมื่อแต่งงานแล้ว เนื่องจากเป็นคนมีญาณสังหรณ์สูง รู้ทันคู่ไปหมดทุกเรื่อง ทำให้คนรักหรือคู่ครองหงุดหงิด รำคาญจนทนไม่ไหว ทำให้ต้องเลิกร้างกันไป หรือตายจากกันไป หากมีดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา และมีดาวศุกร์(๖) ได้เกณฑ์ที่ดี คู่ครองหรือคนรักมักจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หากดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนา มีดาวศุกร์(๖) อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี มีโอกาสทีจะเลิกร้างจากคู่ได้ง่าย

.

๒.๓ วิธีแก้ดวง .

๒.๓.๑ คนที่ดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนา ควรเลือกคบคนที่มีอายุมากมากกว่า มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มั่นคง มีจิตใจหนักแน่น หรือเคยผ่านการมีคู่มาก่อน จึงจะสามารถทนต่ออุปนิสัยขี้หงุดหงิด มากเรื่อง ของเจ้าชาตาที่มีดาวมฤตยูทับลัคนาได้

.๒.๓.๒ สำหรับคนที่ดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา ควรเลือกคบคนที่เคยมีคู่มาก่อน หรือคนที่มีตำหนิ จะสามารถครองคู่ได้อย่างมีความสุข หากคบกับคนที่เป็นหนุ่มหรือเป็นสาวที่ไม่เคยผ่านการมีคู่มาก่อน ส่วนมากชีวิตคู่จะไม่ยืนยาว มีโอกาสที่จะเลิกรากันได้ง่าย

.๒.๓.๓ สำหรับคนที่มีดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา ถ้าแต่งงานแล้ว ได้คู่ที่รักกันมาก อายุไล่เลี่ยกัน คู่เป็นคนโสดไม่ผ่านการมีคู่มาก่อน ก็ไม่ควรรักกันมากเกินแบบหลุมหลง เพราะหากฝ่ายตรงข้างดวงเปราะหรือดวงชาตาเดิมไม่ดีในเรื่องคู่ครอง อาจจะทำให้คู่อายุสั้น เนื่องจากดาวมฤตยู(๐) อยู่ในเรือนปัตนิ เล็งลัคนา มักจะเป็นดวงกินคู่ อาจจะทำให้คู่ครองมีอันเป็นไปได้ง่าย จึงควรแก้เคล็ดด้วยการไม่ใกล้ชิดกันมาก ควรแยกนอนคนละห้อง หรืออยู่คนละบ้าน บางคนแก้เคล็ดด้วยการจดทะเบียนหย่าก็มี ( 

.

๒.๓.๔ คำว่าดวงกินคู่ มี ๒ แบบคือ หากเจ้าเรือนปัตนิตกภพมรณะ ดวงนี้เรียกว่าดวงกินคู่แท้ ควรแก้เคล็ดด้วยการแต่งงานกับคนที่เป็นหม้ายมาก่อน และควรแยกกันอยู่ แถมอย่ารักกันมากเกิน หากดาวมฤตยู(๐) อยู่ในภพปัตนิ ผลร้ายจะเกิดขั้นน้อยกว่าแบบแรก ไม่ควรแต่งงานกับคนวัยเดียวกัน เมื่อแต่งงานแล้วควรแยกกันอยู่จะปลอดภัยดีกว่าการอยู่ร่วมกัน และไม่ควรรักกันมาก โอกาสที่คู่จะพลัดพรากก็มีไม่น้อย

.๒.๓.๕ หากในดวงชาตามีทั้งดาวมฤตยู(๐) และดาวเกตุ(๙) ถึงลัคนา (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ดและสิบจากลัคนาหรือจันทร์) ในพิจารณาดาวดวงใดมีองศาใกล้เคียงกับลัคนามากกว่ากัน ดาวที่มีองศาใกล้เคียงกับลัคนามากกว่า จะมีอิทธิพลต่อเจ้าชาตามากกว่า ดาวที่มีองศาห่างจากลัคนา

ดาวมฤตยู(๐) สถิตในราศีต่าง ๆ ตามที่ท่านบูรพาจารย์ ท่านได้แต่งคำประพันธ์ไว้ ดังนี้

  มฤตยูนั้นว่าสำคัญยิ่ง

ร้ายดีมีจริงตามราศี

จงวิจารณ์ดูนัยต่อไปนี้

ตามภูมิมีข้อไขเป็นใจความ

๑. ราศีเมษ

มฤตยูอยู่เมษประทับทักษ์

ชื่ออนุภาวจักรถ้าท่านถาม

ในวัยต้นทายให้รู้ไม่สู้งาม

แต่รอบสองรอบสามจะได้ดี

เมื่ออายุยังน้อยจะได้เข็ญ

ทำคุณเห็นเหมือนไฟตกน้ำฉี่

หัวและหูมักเป็นหูดประจำมี

แต่ใจดีชอบทำสงครามชัย

​บทกลอนที่ นำเสนอเป็นการพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่ออยู่ในราศีเมษและประทับทักษิณา (ตำแหน่งทักษิณาวรรต) ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้ 

• ช่วงวัยต้น: ชีวิตอาจประสบปัญหาและความยากลำบาก ทำคุณความดีแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือเห็นคุณค่า เปรียบเสมือนไฟตกน้ำฉี่​
• ช่วงวัยกลางและปลาย: สถานการณ์จะดีขึ้น ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับมากขึ้น​
• สุขภาพ: อาจมีปัญหาเกี่ยวกับศีรษะและหู เช่น การเกิดหูดหรือปัญหาอื่นๆ​
• ลักษณะนิสัย: มีจิตใจดี แต่มีความชื่นชอบหรือเกี่ยวข้องกับการต่อสู้หรือสงคราม

๒.ราศีพฤษภ

มฤตยูอยู่พฤษภชื่อพลจักร

ผู้นั้นมักกล้าแข็งแห่งนิสัย

มีกำลังแลทรัพย์นับหมื่นไป

ขุนนางมักพอใจรักบูชา

แต่มักเป็นโรคเปื่อยและพุพอง

หนุ่ยโหนกตามทำนองแข้งและขา

อายุเยาว์ยังไม่ดีมีโรคา

แต่รอบสองข้างหน้าและต่อไป

จะได้ดีมีสุขตลอดแก่

ให้คุณแน่ตามตำราท่านกล่าวไข

พยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีพฤษภ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว มีความมุทะลุและดื้อรั้น แต่เมื่อเผชิญกับปัญหาชีวิตที่ยุ่งยาก มักจะเอาชนะและต่อสู้จนผ่านพ้นไปได้ 
• การเงินและทรัพย์สิน: มีโอกาสสะสมทรัพย์สินและความมั่งคั่ง ขุนนางหรือผู้มีอำนาจมักพอใจและให้การสนับสนุน​
• สุขภาพ: อาจประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เช่น โรคเปื่อย พุพอง หรือหูด โดยเฉพาะบริเวณแข้งและขา​
• ช่วงวัย:
  • วัยเยาว์: อาจเผชิญกับปัญหาสุขภาพและความยากลำบาก​
  • วัยกลางคนและบั้นปลาย: ชีวิตจะดีขึ้น มีความสุขและความสำเร็จ​

๓.ราศีเมถุน

มฤตยูเนาว์อยู่ภูมิเมถุนใน

ชื่อฤทธิจักรจำไว้ให้จงดี

ว่าผู้นั้นเมื่อน้อยมักพลัดพราก

เข็ญใจลำบากจนถึงที่ 

มักเป็นโรคที่หัวไหล่และนาภี  

อายุรอบสาม สี่ ให้คุณครัน

จะมีฐานาและยศศักดิ์

เจ้านายรักโปรดให้ได้ของขวัญ  

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีเมถุน ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยต้น: อาจประสบปัญหาการพลัดพรากหรือความยากลำบากในชีวิต​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มเผชิญปัญหาเกี่ยวกับหัวไหล่และสะดือ​
• ช่วงวัยกลางและปลาย: มีโอกาสได้รับยศศักดิ์และความเมตตาจากผู้ใหญ่

๔.ราศีกรกฎ

มฤตยูอยู่ภูมิกรกฎนั้น

ชื่อสำคัญสฤษฎิจักรท่านทักมา

ว่าผู้นั้นเมื่อน้อยถึงหนุ่มสาว

จะเป็นคราวลำบากยากนักหนา

มักระทมทุกข์โศกโรคโรคา

ป่วยตามกายายอกเสียดนอกใน

เมื่ออายุรอบสองถึงรอบสาม

ให้คุณงามเปลื้องทุกข์แสนสุขใส

ถึงรอบสี่รอบห้าหาเพียรไป

กลับใจหมดสุข ทุกข์ถึงตัว

ทั้งสินทรัพย์กลับวิบัติบุบสลาย

เป็นคราวร้าย เวรกรรมมาทำชั่ว

สุขแล้วทุกข์กลับกลายกายามัว

ระมัดตัววิจารณ์จิต คิดระวัง

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีกรกฎ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยต้น: อาจประสบปัญหาและความยากลำบากในชีวิต มีความทุกข์โศกและเจ็บป่วยบ่อยครั้ง​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มเผชิญปัญหาสุขภาพ เช่น อาการปวดเมื่อยหรือเจ็บป่วยภายในร่างกาย​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสองถึงรอบสาม): สถานการณ์จะดีขึ้น มีโอกาสได้รับความสุขและความสำเร็จในชีวิต​
• ช่วงวัยปลาย (รอบสี่ถึงรอบห้า): อาจเผชิญกับความทุกข์และการสูญเสียทรัพย์สิน ควรระมัดระวังและใช้วิจารณญาณในการดำเนินชีวิต​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีกรกฎดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: เป็นคนเจ้าอารมณ์ หวั่นไหวง่าย ชอบทำสิ่งแปลกใหม่ ไม่ค่อยยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ​ 
• ชีวิตครอบครัว: อาจมีปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว หรือความสัมพันธ์ในบ้านไม่ค่อยราบรื่น

๕.ราศีสิงห์

มฤตยูอยู่สิงห์ภูมิพิทักษ์

ชื่อเดชจักรกำหนดปรากฏตั้ง

ชาตาดีมีปัญญาแกร่งกล้าจัง

เมื่อน้อยยังหนุ่มสาวคราวไม่ดี

มักพลัดพรากจากที่และถิ่นฐาน

และเกิดโรครำคาญประจำที่

ตรงสะดือหัวเหน่าในนาภี

อายุรอบสอง สาม ดีมีปัญญา

จะให้คุณบุญหนักและศักดิ์ใหญ่

แต่ว่าให้โลภรักมักตัณหา

จะเป็นที่พึ่งเขาชาวพารา

จนแก่เฒ่าชราตลอดไป

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีสิงห์ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยต้น: อาจประสบปัญหาการพลัดพรากจากถิ่นฐานและความยากลำบากในชีวิต​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มเผชิญปัญหาเกี่ยวกับสะดือ หัวเหน่า และบริเวณหน้าท้อง​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสองถึงรอบสาม): มีโอกาสพัฒนาปัญญา ได้รับความสำเร็จและยศศักดิ์​
• ลักษณะนิสัย: อาจมีความโลภและตัณหา แต่สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้อื่นได้​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีสิงห์ดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: รักอิสระ มีความพยายาม บางครั้งหัวแข็ง ดื้อรั้น ชอบการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูป ต้องการทำสิ่งต่างๆ ตามความต้องการของตนเอง ​ 
• ชีวิตรัก: มักมีความรักที่ไม่คาดฝัน หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์อย่างไม่คาดคิด ​

๖.ราศีกันย์

มฤตยูอยู่กันย์เรียกสิทธิจักร

ว่าจะเป็นที่รักแห่งผู้ใหญ่

พ่อแม่สุดสวาทจะขาดใจ

ญาติพี่น้องรักใคร่สนิทเนา

มักเป็นโรคเจ็บปวดตะโพกขวา

ปวดเสียวมาถึงท้องและหัวเหน่า

ทั้งจะมีถ้อยความลามปามเอา

อายุย่างรอบสองและสามดี

จะให้คุณทับทวีมีความสุข

แต่เป็นทุกข์เพราะพ่อแม่และพี่น้อง

มีนิสัยซึมทึบเป็นบางที

บางคราวมีร่าเริงบันเทิงใจ

 การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีกันย์ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ความสัมพันธ์กับครอบครัว: ได้รับความรักและความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ พ่อแม่ และญาติพี่น้อง​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มประสบปัญหาสุขภาพ เช่น อาการปวดตะโพกขวา ปวดท้อง และบริเวณหัวเหน่า​
• ปัญหาทางกฎหมาย: อาจเผชิญกับคดีความหรือข้อพิพาททางกฎหมาย​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสองถึงรอบสาม): ชีวิตจะดีขึ้น มีความสุขและความสำเร็จ แต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับพ่อแม่และพี่น้อง​
• ลักษณะนิสัย: บางครั้งมีความเงียบขรึม แต่บางครั้งก็ร่าเริง​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีกันย์ดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: เป็นคนฉลาด ทันเล่ห์เหลี่ยม รักอิสระ สนใจงานด้านช่างกล ศิลปะ การสอน งานไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และสารเคมี ​ 
• การงาน: ไม่ชอบงานที่ซ้ำซาก จำเจ มีความสนใจในงานที่ท้าทายและแปลกใหม่​r

๗.ราศีตุลย์

มฤตยูอยู่ตุลย์อุดมจักร

เมื่อหนุ่มมักเป็นที่รักแห่งญาติใกล้

มักจะเป็นโรคาพยาธิ์ใน

ปวดท้องปวดไส้ประจำตัว

อนึ่งท่านยังว่าเท้าทั้งสอง

เป็นโรคป่วยพุพองขึ้นเป็นหัว

อายุรอบสาม สอง พ้นหมองมัว

กลับให้คุณบุญตัวแต่ก่อนมา

ว่าจะได้มีบุญและยศศักดิ์

แต่ก็มักไม่ยืนไปภาคหน้า

ทรุดแล้วจะทรงเพราะตนพา

พยายามเก็บหาจึงอยู่ดี

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีตุลย์ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: ได้รับความรักและความเอ็นดูจากญาติพี่น้องและคนใกล้ชิด​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มประสบปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดท้อง ปวดไส้ และโรคที่เกี่ยวกับเท้า เช่น แผลพุพอง​
• ช่วงวัยกลางคน (อายุรอบสองถึงรอบสาม): ชีวิตจะดีขึ้น มีโอกาสได้รับยศศักดิ์และความสำเร็จ​
• ความมั่นคง: ความสำเร็จอาจไม่ยั่งยืน จำเป็นต้องพยายามและระมัดระวังในการดำเนินชีวิตเพื่อรักษาความมั่นคง​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีตุลย์ดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: เป็นคนที่มีความสุขแตกต่างจากคนทั่วไป มีความชอบในสิ่งแปลกใหม่ และมักมีความรักนอกกรอบหรือความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ  
• ความรักและความสัมพันธ์: อาจเผชิญกับความรักที่ผิดที่ผิดทาง เช่น แอบรักคนมีเจ้าของ หรือรักคนเพศเดียวกัน  

๘.ราศีพิจิก

มฤตยูอยู่พิจิกมหาจักร

เมื่อน้อยมักเลี้ยงยากจนถึงที่

ตนกับญาติเป็นศัตรูไม่สู้ดี

เมื่อหนุ่มสาวตามคัมภีร์ท่านกล่าวมา

มักกลิ้งกลอกสับปลับนับไม่ได้

มักเป็นโรคภายในและร่มผ้า

เจ็บท้องน้อยองค์นิพนธ์ต้นตำรา

อนึ่งว่ามีทุกข์ไม่สุขใจ

ต่ออายุเข้ารอบสองและรอบสาม

จึงมีความสำราญผ่านทุกข์ได้

ไม่ยากจนค่นแค้นไม่แคลนใคร

ตั้งตัวได้ฐานะก็พอประมาณ

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีพิจิก ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: อาจประสบความยากลำบากในการเลี้ยงดู และมีความขัดแย้งกับญาติพี่น้อง​
• ลักษณะนิสัย: มีแนวโน้มเป็นคนไม่แน่นอนหรือไม่น่าเชื่อถือ​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มประสบปัญหาสุขภาพภายในและบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงอาการเจ็บปวดในท้องน้อย​
• ช่วงวัยกลางคน (อายุรอบสองถึงรอบสาม): ชีวิตจะดีขึ้น สามารถผ่านพ้นความทุกข์และตั้งตัวได้ มีฐานะที่พอประมาณ​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีพิจิกดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: เป็นคนเด็ดเดี่ยว ใจแข็ง ทรหดอดทน บางครั้งดื้อรั้น ทำตัวลึกลับ มีความสนใจในสิ่งที่ไม่ธรรมดา
• การงาน: มักก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากความมุ่งมั่นของตนเอง ชอบผจญภัยและเสี่ยงภัย

๙.ราศีธนู

มฤตยูอยู่ธนูชื่อเวชจักร

ผู้นั้นไซร้ย่อมประจักษ์ซึ่งยศฐาน

ตั้งแต่น้อยจนวัยมัชฌิมกาล

ญาติมักพาลผูกผิดเป็นศัตรู

วัยสอง สาม มีสุขและสมบัติ

สารพัดเรื่องยศไม่อดสู

มักจะจากพ่อแม่ผู้อุ้มชู

จงเร่งรู้ทำนายทายทักเอา

มักจะพลันตกยากหากให้เป็น

เดี๋ยวเคืองเข็ญเดี๋ยวมีทรัพย์เดี๋ยวฉับเอา

ปวดท้องน้อยเป็นประจำไม่บรรเทา

มฤตยูทำเอาอย่าโทษใคร

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีธนู ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: แม้จะได้รับยศศักดิ์หรือฐานะ แต่ญาติพี่น้องอาจเป็นศัตรูหรือไม่สนับสนุน​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสองและรอบสาม): ชีวิตจะมีความสุขและสมบัติ แต่มีแนวโน้มที่จะต้องพลัดพรากจากพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู​
• สุขภาพ: อาจประสบปัญหาเจ็บป่วยในช่องท้องส่วนล่าง​
• ความมั่นคงทางการเงิน: มีความไม่แน่นอนทางการเงิน บางครั้งอาจประสบความยากลำบาก บางครั้งมีทรัพย์สิน ควรระวังและบริหารจัดการการเงินอย่างรอบคอบ​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีธนูดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างประดิษฐ์ และมีจินตนาการสูง มักคิดในสิ่งที่คนอื่นไม่คิดหรือทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ 
• ความสามารถพิเศษ: มีสัมผัสพิเศษ (sixth sense) และจินตนาการในด้านมืด โดดเด่นในเรื่องลึกลับ ความเชื่อ และสิ่งที่เป็นศรัทธาหรืองมงาย ​ 

๑๐.ราศีมังกร

มฤตยูอยู่มังกรชื่อภูมิจักร

เมื่อน้อยมักมีสุขสนุกใหญ่

เป็นที่รักของญาติทุกคนไป

แต่เป็นโรคที่ไหล่หรือชายโครง

เมื่ออายุวัยสองครองความสุข

นิรทุกข์ทั้งยโสก็โอ่โถง

แต่วัยปลายร้ายแรงด้วยโรคโกง

แทบเข้าโลงป่วยบ่อยไม่น้อยเลย

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีมังกร ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: ชีวิตมีความสุขและสนุกสนาน ได้รับความรักจากญาติพี่น้อง แต่มีแนวโน้มประสบปัญหาสุขภาพ เช่น อาการเจ็บปวดบริเวณไหล่หรือชายโครง​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสอง): ชีวิตมีความสุขและความสำเร็จ มีความภูมิใจในตนเอง​
• ช่วงวัยปลาย: อาจเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่รุนแรง โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับกระดูกหรือข้อ​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีมังกรดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: มีความทะเยอทะยานที่แตกต่างจากคนทั่วไป มักให้ความคิดเห็นที่มองทะลุปรุโปร่ง รักอิสระเสรี ถนัดในงานการปกครองคน และมีความสามารถในงานที่เกี่ยวข้องกับราชการ  
• การเปลี่ยนแปลงในชีวิต: ดาวมฤตยูเป็นดาวแห่งการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมถอย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหรือเสื่อมถอยนี้จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป  

๑๑.ราศีกุมภ์

มฤตยูราศีกุมภ์ราชาจักร

หาที่พึ่งยากนักฟังเฉลย

ทั้งพ่อแม่ทอดทิ้งไม่เลี้ยงเลย

หูก็มักเฉยเมยไม่ได้ยิน

ถึงวัยสามความสุขจึงมาสู่

เพราะตนสู้พรากเพียรเรียนเอาสิ้น

ชอบเป็นโรคธาตุพิการเป็นอาจิณ

วัยสามนั้นจึงสิ้นเคราะห์มาพาน

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีกุมภ์ ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: อาจประสบปัญหาในการหาที่พึ่งพิง พ่อแม่อาจไม่สามารถเลี้ยงดูได้ตามที่ควร และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มประสบปัญหาเกี่ยวกับธาตุในร่างกายหรือระบบย่อยอาหาร​
• ช่วงวัยกลางคน (รอบสาม): ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นในการศึกษาและทำงาน จะสามารถสร้างความสุขและความสำเร็จได้​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีกุมภ์ดังนี้:​

• ลักษณะนิสัย: มีความสามารถพิเศษในด้านการศึกษา ความจำดี เจ้าความคิด และมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 
• ชีวิตครอบครัว: ชีวิตในครอบครัวในปฐมวัยมักจะยุ่งยาก เช่น พลัดพรากจากที่อยู่หรือบิดามารดา ​

๑๒.ราศีมีน

มฤตยูอยู่มีนสาตราจักร

เมื่อน้อยมักมีสุขเกษมสานต์

ทั้งพ่อแม่รักใคร่ในวงศ์วาน

พอเป็นหนุ่มหาญเป็นศัตรูหมู่ญาติตน

ชอบเป็นโรคที่หรือที่แก้ม

เชาว์แฉล้มเปรื่องปราดฉลาดผล

คิดอันใดถูกแบบรู้แยบยล

สบายตนมั่นคงมี ดีปลายมือ

การพยากรณ์เกี่ยวกับดาวมฤตยู (๐) เมื่อสถิตในราศีมีน ซึ่งในโหราศาสตร์ไทยมีการตีความดังนี้:​

• ช่วงวัยเยาว์: มีความสุข ได้รับความรักจากพ่อแม่และครอบครัว​
• ช่วงวัยหนุ่มสาว: อาจเกิดความขัดแย้งหรือเป็นศัตรูกับญาติพี่น้อง​
• สุขภาพ: มีแนวโน้มประสบปัญหาเกี่ยวกับจมูกหรือแก้ม​
• ลักษณะนิสัย: เป็นคนฉลาด มีความคิดแยบยล​
• ช่วงวัยปลาย: ชีวิตมั่นคงและประสบความสำเร็จ​

นอกจากนี้ ในการพยากรณ์สมัยใหม่ มีการตีความเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวมฤตยูในราศีมีนดังนี้:​

• ความสนใจ: มีความสนใจในเรื่องลึกลับ วิทยาศาสตร์ หรือวิชาที่ไม่ธรรมดา
• ลักษณะนิสัย: เป็นคนมีสัมผัสพิเศษ มีจินตนาการในด้านมืด โดดเด่นในเรื่องลึกลับ ความเชื่อ และสิ่งที่เป็นศรัทธาหรืองมงาย  

การพยากรณ์ดาวมฤตยู(๐) จร ไปสถิตในราศีต่าง ๆ มีดังนี้

๑.มฤตยูอยู่ตนุธุรกิจ

จะขัดติดเคืองเข็ญไม่เป็นผล

ทั้งขายค้ายุ่งใหญ่ให้กังวล

เป็นทุกข์ท้นสินทรัพย์กลับวอดวาย

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูจร (เคลื่อนที่) มาทับลัคนา ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่แทนตัวตนและชีวิตของบุคคล อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิต เช่น การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย การงาน หรือสถานะทางสังคม ​

สำหรับภพตนุ (ภพที่ 1) หรือภพลัคนา ซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวตนและสุขภาพ การที่ดาวมฤตยูจรมาทับอาจทำให้บุคคลประสบกับการเปลี่ยนแปลงในด้านสุขภาพหรือบุคลิกภาพ อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งต้องการการปรับตัวอย่างรวดเร็ว​

ในกรณีของภพธุรกิจ (ภพที่ 7) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคู่ครอง หุ้นส่วน และการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ การที่ดาวมฤตยูจรมาทับอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์หรือการเป็นหุ้นส่วน อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด เช่น การยุติความสัมพันธ์หรือการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่

๒.มฤตยูอยู่กดุมภะ

การเงินจะตกเรี่ยและเสียหาย

เวลาออก ออกเป็นก้อนไม่คลอนคลาย

เวลาได้ได้เบี้ยหัวแตกแปลกแต่จริง

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพกดุมภะ (ภพที่ 2) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเงินและทรัพย์สิน อาจส่งผลให้สถานะการเงินของเจ้าชะตาไม่แน่นอน มีความผันผวนสูง​

ลักษณะของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:​

• รายได้ไม่สม่ำเสมอ: มีช่วงเวลาที่ได้รับเงินก้อนใหญ่ แต่บางครั้งอาจมีรายได้เล็กน้อยหรือขาดแคลน​
• การใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด: อาจมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้การเงินไม่มั่นคง​
• โชคลาภที่ไม่แน่นอน: มีโอกาสได้รับโชคลาภแบบไม่คาดฝัน แต่ก็อาจสูญเสียได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

๓.มฤตยูสู่สหัชชะอธิบาย

จะยากกายด้วยเพื่อนทั้งชายหญิง

จะนำเรื่องร้อนใจมาให้จริง

ห้ามยุ่งยิ่งเรื่องมิตร จะบิดกลาย

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพสหัชชะ (ภพที่ 3) ซึ่งเกี่ยวข้องกับเพื่อนฝูง การสื่อสาร การเดินทางระยะใกล้ และพี่น้อง อาจส่งผลดังนี้:​

• ความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงและพี่น้อง: มีแนวโน้มที่จะคบหากับเพื่อนหรือพี่น้องที่มีลักษณะแปลกหรือแตกต่างจากคนทั่วไป เช่น มีบุคลิกหรือนิสัยที่ไม่เหมือนใคร หรือมีความสนใจในสิ่งที่ไม่ธรรมดา 
• การสื่อสารและการเดินทาง: อาจมีการเดินทางที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือไม่ได้วางแผนล่วงหน้า และมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง  
• ความขัดแย้งและความไม่แน่นอน: มีโอกาสเกิดความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกับเพื่อนฝูงหรือพี่น้อง ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเครียดหรือปัญหาในความสัมพันธ์

๔.มฤตยูสู่เรือนพันธุเล่า

จะสูญเสียพงศ์เผ่าที่รักหลาย

ทั้งหมู่ญาติอาพาธไม่รู้วาย

ต้องยากกายกังวลทนทรมาน

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพพันธุ (เรือนที่ 4) ซึ่งเกี่ยวข้องกับบ้าน ที่อยู่อาศัย ครอบครัว และญาติพี่น้อง อาจส่งผลดังนี้:​

• การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย: มีเกณฑ์ต้องย้ายบ้าน เปลี่ยนที่อยู่อาศัย หรือมีการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ 
• ความสัมพันธ์กับครอบครัว: อาจเกิดความขัดแย้งหรือปัญหากับสมาชิกในครอบครัว หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องพลัดพรากจากญาติพี่น้อง​
• ปัญหาสุขภาพของญาติผู้ใหญ่: มีแนวโน้มที่ญาติผู้ใหญ่จะประสบปัญหาสุขภาพหรือเจ็บป่วย ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลและภาระในการดูแล

๕.มฤตยูปุตตะระวังเหตุ

จะอาเพศแก่บุตรสุดสงสาร

ท่านว่าบุตรสุดที่รักจักวายปราณ

เพราะกรรมกาลก่อนเก่าเต้าตามมา

 ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพปุตตะ (เรือนที่ 5) ซึ่งเกี่ยวข้องกับบุตร ธุรกิจใหม่ ความรัก และความคิดสร้างสรรค์ อาจส่งผลดังนี้:​

• บุตรหลาน: อาจมีปัญหาเกี่ยวกับบุตร เช่น มีบุตรยาก หรือมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ​ 
• ความรักและความสัมพันธ์: มีความคิดเห็นหรือทัศนคติที่แปลกใหม่ในด้านความรัก อาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนหรือซับซ้อน ​ 
• ธุรกิจและการลงทุน: การเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือการลงทุนใหม่ ๆ อาจมีความผันผวนหรือพลิกผัน ควรระมัดระวังในการตัดสินใจ ​

๖.มฤตยูอยู่อริวิเศษนัก

ศัตรูจักพ่ายแพ้แน่หนักหนา

อุปสรรคเภทภัยไม่บีฑา

ลาภสักการ์ก่อเกิดประเสริฐเลย

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพอริ (เรือนที่ 6) ซึ่งเกี่ยวข้องกับศัตรู อุปสรรค และสุขภาพ มีการตีความดังนี้:​

• ศัตรูและอุปสรรค: มีความเชื่อว่าศัตรูหรือคู่แข่งอาจพ่ายแพ้หรือหมดไปจากชีวิต ทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ลดลง​
• สุขภาพ: อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่หาสาเหตุได้ยากหรือโรคเรื้อรัง  

ควรระมัดระวังและดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าอุปสรรคจากศัตรูอาจลดลง แต่การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงยังคงเป็นสิ่งสำคัญ

๗.มฤตยูจู่ภพปัตนิ

เคราะห์แล้วสิคู่จะตายทายเฉลย

แม้นจากกันพอบรรเทาเขาภิเปรย

พอดาวเลยกลับมาสู่หากิน

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพปัตนิ (เรือนที่ 7) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคู่ครอง หุ้นส่วน และความสัมพันธ์ใกล้ชิด อาจส่งผลดังนี้:​

• ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน: มีแนวโน้มที่ความสัมพันธ์กับคู่ครองหรือหุ้นส่วนจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด อาจเกิดความขัดแย้งหรือการพลัดพราก 
• คู่ครองมีลักษณะแปลกหรือไม่ธรรมดา: อาจได้คู่ครองที่มีบุคลิกหรือลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไป หรือมีความคิดและพฤติกรรมที่ไม่เหมือนใคร ​
• ความผันผวนในชีวิตคู่: ความสัมพันธ์อาจมีความไม่แน่นอนหรือเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ทำให้ต้องปรับตัวและเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น

๘.มฤตยูอยู่ภพมรณะ

ก็เลยละความไข้ไม่โศกศัลย์

จะอยู่ดีกินดีทุกวี่วัน

แข็งขยันไสยศาสตร์ฉลาดดี

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพมรณะ (เรือนที่ 8) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความตาย การเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ซ่อนเร้น มีการตีความดังนี้:​

• สุขภาพและความเป็นอยู่: มีความเชื่อว่าการมีดาวมฤตยูในภพมรณะอาจส่งผลให้เจ้าชะตาไม่มีโรคภัยหรือมีสุขภาพแข็งแรง 
• ความสนใจในศาสตร์ลึกลับ: เจ้าชะตาอาจมีความสนใจในเรื่องไสยศาสตร์หรือศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความลึกลับ 

๙.มฤตยูอยู่ภพศุภะเล่า

งานในเหย้ายุ่งยิ่งทุกสิ่งที่

ต้องจัดแจงแต่งย้ายทำไมมี

ทำความดีอาภัพอับเหลือใจ

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพศุภะ (เรือนที่ 9) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ศาสนา การศึกษา และการเดินทางไกล อาจส่งผลดังนี้:​

• ความคิดและจิตใจ: เจ้าชะตาอาจมีความคิดมาก วิตกกังวล หรือมีทัศนคติในแง่ลบ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดหรือปัญหาทางจิตใจ 
• ความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ: อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือความขัดแย้งกับบุคคลที่มีอำนาจหรือผู้ใหญ่ในชีวิต เช่น เจ้านายหรือพ่อแม่
• การเปลี่ยนแปลงในความเชื่อหรือศาสนา: อาจมีการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อทางศาสนา หรือสนใจในปรัชญาและแนวคิดใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม​
• การเดินทางไกล: มีโอกาสเกิดการเดินทางไกลที่ไม่คาดคิด หรือการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการศึกษาในต่างประเทศ

๑๐.มฤตยูสู่กรรมะจะทำเหตุ

การติดต่อต่างประเทศล้วนเหลวไหล

งานนอกบ้านกลางแจ้งหนักแรงกระไร

ทำงานในบ้านดีมีผลพูน

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพกัมมะ (เรือนที่ 10) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการงาน อาชีพ และเกียรติยศ อาจส่งผลดังนี้:​

• การเปลี่ยนแปลงในสายงาน: มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงงานหรือสายอาชีพ อาจเปลี่ยนไปทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน หรือมีการปรับบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างจากเดิม 
• งานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแปลกใหม่: อาจมีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ นวัตกรรม หรือสิ่งที่ทันสมัย​
• ความไม่แน่นอนในอาชีพ: การงานอาจมีความไม่แน่นอนหรือผันผวน ควรเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

๑๑.มฤตยูสู่ลาภะจะขัดข้อง

ทั้งเงินทองสินทรัพย์มักอับสูญ

ถึงขยันหมั่นเท่าใดไม่สมบูรณ์

เพราะดาวร้ายก่อผลให้เป็นเอง

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพลาภะ (เรือนที่ 11) ซึ่งเกี่ยวข้องกับลาภผล มิตรสหาย และความหวัง อาจส่งผลดังนี้:​

• ความสัมพันธ์กับมิตรสหาย: มีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนหรือมิตรสหายที่มีลักษณะแปลกหรือแตกต่างจากคนทั่วไป เช่น เป็นคนหัวสมัยใหม่ หรือมีความสนใจในศาสตร์ลึกลับ
• ลาภผลและโชคลาภ: การได้รับลาภผลหรือโชคลาภอาจมาในรูปแบบที่ไม่คาดคิด หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องการ ​
• ความไม่แน่นอนในลาภผล: การได้รับลาภผลอาจมีความไม่แน่นอน หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

๑๒.มฤตยูสู่ภพวินาศน์อยู่

มีศัตรูแปลกๆ แทรกข่มเหง

เช่นเคยเป็นมิตรเก่าแต่ก่อนเพรง

อวดนักเลงให้ร้ายเมื่อปลายมือ

 ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูสถิตอยู่ในภพวินาศน์ (เรือนที่ 12) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความลับ ศัตรูที่มองไม่เห็น การสูญเสีย และสิ่งที่ซ่อนเร้น อาจส่งผลดังนี้:​

• ศัตรูที่ไม่เปิดเผย: มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับศัตรูหรือผู้ไม่หวังดีที่ไม่เปิดเผยตัว หรือเคยเป็นมิตรแต่กลับกลายเป็นศัตรูในภายหลัง
• การทำงานเบื้องหลัง: อาจมีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องกับความลับ หรือทำงานเบื้องหลังที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 
• ความสนใจในศาสตร์ลึกลับ: มีความสนใจในเรื่องลึกลับหรือศาสตร์ที่ซ่อนเร้น เช่น โหราศาสตร์ หรือจิตวิทยา  

ดาวดวงนี้เมื่อประสพภพที่ร้าย

ก็เสื่อมคลายชั่วช้าน่านับถือ

เข้าภพดีก็ทำลายเหมือนไฟฮือ

สมกับชื่อมฤตยูที่รู้กัน

 ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูโคจรเข้าสู่ภพต่าง ๆ ในดวงชะตา อาจส่งผลดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับลักษณะของภพนั้น ๆ หากดาวมฤตยูเข้าสู่ภพที่ถือว่าเป็นภพไม่ดี (ภพทุสถานะ) เช่น ภพอริ (ที่ 6) มรณะ (ที่ 8) หรือวินาศน์ (ที่ 12) อาจช่วยบรรเทาหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ไม่ดีให้ดีขึ้นได้ ในทางกลับกัน หากดาวมฤตยูเข้าสู่ภพที่ดี (ภพเกษตร) เช่น ภพตนุ (ที่ 1) กัมมะ (ที่ 10) หรือศุภะ (ที่ 9) อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดหรือความไม่แน่นอนในด้านที่เคยดีอยู่​

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงของดาวมฤตยูในแต่ละภพจะขึ้นอยู่กับดวงชะตาเฉพาะบุคคล รวมถึงตำแหน่งและความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์อื่น ๆ ในดวงชะตาด้วย ดังนั้น ควรปรึกษานักโหราศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำและเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

 ดาวมฤตยูกับความสัมพันธ์กับดาวพระเคราะห์ทั้ง 7 ดวง

อันนี้ขึ้นอยู่กับระยะเชิงมุมที่มฤตยูไปสัมพันธ์กับดาวเคราะห์ในแต่ละดวง ซึ่งแบ่งเป็นเชิงมุมที่ดี และ ร้าย ( กุม , เล็ง , ตรีโกณ , โยค , จตุโกณ และ ทุสนะภพราศี )

มฤตยู ( ๐ ) กับ อาทิตย์ ( ๑ )

ในเชิงมุมที่ดี มฤตยูก็จะไปกระตุ้นอาทิตย์ เช่นตำแหน่งงานอันมีเกียรติ มฤตยูก็จะกระตุ้นให้ได้รับตำแหน่งนั้นอย่างไม่คาดฝัน ทำให้อาทิตย์มีพลังงานมากขึ้น , ทำให้เกิดปัญญาล้ำหน้ากว่าผู้อื่น เป็นไปแบบอัจฉริยวุฒิ แสดงถึงความสำเร็จในชีวิตรัก

ในเชิงมุมที่ร้าย ความเก่งกาจและความเป็นอาทิตย์จะถูกใช้ไปอย่างนอกลู่นอกทาง อย่างมากเกินไป ก่อให้เกิดความดื้อรั้นหัวแข็ง กำเริบเสิบสาน ผิดทำนองครองธรรม มักจะก้าวร้าวรุนแรง ความมีเล่ห์เหลี่ยมทันคนก็จะถูกใช้ไปในทางเพื่อเล่ห์กลที่มากเกินไป กลายเป็นคนผยองพองขน อหังการ เป็นคนเห็นแก่ตัว ทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อดาวมฤตยูมีมุมสัมพันธ์กับดาวเคราะห์อื่น ๆ ผลกระทบจะขึ้นอยู่กับลักษณะของมุมนั้น ๆ ซึ่งแบ่งเป็นมุมที่ดีและมุมที่ร้าย​

มุมสัมพันธ์ระหว่างดาวมฤตยู (๐) และดาวอาทิตย์ (๑):

• มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค): ดาวมฤตยูจะกระตุ้นพลังของดาวอาทิตย์ ส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือได้รับตำแหน่งที่มีเกียรติอย่างไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพูนสติปัญญา ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์และมีความสำเร็จในชีวิตรัก​
• มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ): พลังของดาวอาทิตย์อาจถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความดื้อรั้น หัวแข็ง และมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์สังคม อาจนำไปสู่ความก้าวร้าว ความเห็นแก่ตัว และการกระทำที่โหดร้าย ซึ่งส่งผลให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

มฤตยู ( ๐ ) กับ จันทร์ ( ๒ )

ในเชิงมุมที่ดี ทำให้เป็นคนมีจินตนาการที่สวยงาม ก่อให้เกิดความประดิษฐ์และสร้างสรรค์ มีความคิดก้าวหน้าที่แปลกและดี มีมุนษยสัมพันธ์ที่ดีมีเสน่ห์มาก มีเสน่ห์มากเกี่ยวกับเรื่องความรักและโรแมนติก

ในเชิงมุมที่ร้าย ก่อให้เกิดความฟุ้งซ่าน ทะเยอะทยานอยากที่มากไป มีความคิดที่นอกลู่นอกรอย อารมณ์แปรปรวนมาก มักระเบิดอารมณ์ออกมาบ่อยๆ ขาดความระมัดระวังทั้งทางร่างกายและจิตใจ มักมีอารมณ์รุนแรงผิดแผกและวิตถารในด้านกามารมณ์

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวจันทร์ (๒) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ซึ่งแบ่งเป็นมุมที่ดีและมุมที่ร้าย ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์: ส่งเสริมให้บุคคลมีจินตนาการที่สวยงามและความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่​
• มนุษยสัมพันธ์และเสน่ห์: เพิ่มความมีเสน่ห์และมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำให้เป็นที่รักและยอมรับในสังคม​
• ความรักและความโรแมนติก: เสริมสร้างความสำเร็จในเรื่องความรักและความโรแมนติก​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• อารมณ์แปรปรวนและความฟุ้งซ่าน: ทำให้อารมณ์ไม่คงที่ มีความฟุ้งซ่าน และอาจมีความคิดที่นอกลู่นอกทาง​
• ความก้าวร้าวและขาดความระมัดระวัง: เพิ่มความก้าวร้าว ขาดความระมัดระวังทั้งทางร่างกายและจิตใจ​
• พฤติกรรมที่ผิดแผกในด้านกามารมณ์: อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ผิดแผกหรือวิตถารในด้านกามารมณ์

มฤตยู ( ๐ ) กับ อังคาร ( ๓ )

ในเชิงมุมที่ดี ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความพยายามที่แรงกล้า กล้าคิดกล้าทำ ปฏิบัติโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคจนกว่างานนั้นจะสำเร็จ

ในเชิงมุมที่ร้าย ทำให้เป็นคนใจคอโหดร้าย ทรยศหักหลัง ลักขโมย เป็นคนผีเข้าผีออกคุ้มดีคุ้มร้าย ก่อให้เกิดอุปัทวเหตุ และ ความเสียหายอย่างไม่คาดฝัน

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวอังคาร (๓) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• ความเชื่อมั่นและความพยายาม: เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเองและความพยายามที่แรงกล้า ทำให้กล้าคิดกล้าทำ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคจนกว่างานจะสำเร็จ​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• พฤติกรรมก้าวร้าวและไม่แน่นอน: อาจทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว โหดร้าย หรือทรยศหักหลัง มีแนวโน้มที่จะกระทำการโดยขาดการพิจารณา​
• อุบัติเหตุและความเสียหาย: เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่นำมาซึ่งความเสียหาย

มฤตยู ( ๐ ) กับ พุธ ( ๔ )

ในเชิงมุมที่ดี ทำให้เป็นคนมีความคิดริเริ่ม ที่ไม่ซ้ำแบบใคร เป็นคนเห็นอกเห็นใจคน ซื่อตรงมั่นคงต่อผู้อื่น สามารถชนะใจผู้คนได้ง่าย มีความคิดที่สูงเข้าถึงสัจธรรมได้ง่าย ดีเกี่ยวกับการเดินทางและท่องเที่ยว ก่อให้เกิดผลประโยชน์และกำไรเสมอ ดีเกี่ยวกับงานด้านความคิดมาก

ในเชิงมุมที่ร้าย ทำให้มีความคิดเห็นที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เป็นความคิดที่มีลักษณะนอกลู่นอกรอย ทำให้ชีวิตเกิดความเปลี่ยนแปลงบ่อย ยุ่งยากในการคบหาสมาคม พูดไม่เข้าหูคน ชอบโต้เถียงเพียงแค่ต้องการชนะ

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพุธ (๔) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• ความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์: ส่งเสริมให้บุคคลมีความคิดริเริ่มที่ไม่ซ้ำแบบใคร และมีความคิดก้าวหน้าที่แปลกใหม่​
• ความเห็นอกเห็นใจและความซื่อตรง: ทำให้เป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซื่อตรง และมั่นคงต่อความสัมพันธ์​
• ความสำเร็จในการสื่อสารและการเดินทาง: ส่งผลดีต่อการสื่อสาร การเจรจา และการเดินทาง ทำให้เกิดผลประโยชน์และกำไร​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• ความคิดเห็นที่รุนแรงและนอกลู่นอกทาง: อาจทำให้มีความคิดเห็นที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และมีความคิดที่นอกลู่นอกทาง​
• ความยุ่งยากในการคบหาสมาคม: ทำให้ชีวิตเกิดความเปลี่ยนแปลงบ่อย และยุ่งยากในการคบหาสมาคมกับผู้อื่น​
• การสื่อสารที่ไม่เหมาะสม: อาจทำให้พูดไม่เข้าหูคนอื่น ชอบโต้เถียงเพียงเพื่อเอาชนะ

มฤตยู ( ๐ ) กับ พฤหัส ( ๕ )

ในเชิงมุมที่ดี มักทำให้เป็นนักคิดนักปราชญ์ ก่อให้เกิดความเป็นผู้นำและนักบริหารที่เก่ง ก่อให้เกิดความสำเร็จในชีวิตที่ยิ่งยวด มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเผื่อแผ่เมตตา มีอุดมการณ์ครรลองชีวิตไปตามหลักจารีตและศาสนา มักจะเด่นในทางสังคมและทางสาธารณะกุศล มักได้รับความอุปถัมภ์

ในเชิงมุมที่ร้าย ก่อให้เกิดความมีอัตตาที่สูงเกินไป มักมีทิฐิและก้าวร้าว มักขัดแย้งกับผู้ใหญ่ โลเลไม่ค่อยมีหลักการในชีวิต ขาดความสามารถในทางปฏิบัติ ประเภทร้อนวิชาและไม่เอาไหน มีทัศนะที่ผิดๆ ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพฤหัสบดี (๕) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• ความเป็นผู้นำและความสำเร็จ: เสริมสร้างความเป็นผู้นำและความสามารถในการบริหาร ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยิ่งยวด​
• จิตใจเมตตาและอุดมการณ์: มีจิตใจที่เผื่อแผ่เมตตา ยึดมั่นในหลักจารีตและศาสนา โดดเด่นในสังคมและงานสาธารณกุศล​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• อัตตาสูงและทิฐิ: อาจทำให้มีอัตตาสูง ทิฐิ และก้าวร้าว ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับผู้ใหญ่​
• ความไม่แน่นอนและขาดหลักการ: มีแนวโน้มที่จะโลเล ขาดหลักการในชีวิต และขาดความสามารถในการปฏิบัติ​
• ความรู้ที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้: อาจมีความรู้มากแต่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

มฤตยู ( ๐ ) กับ ศุกร์ ( ๖ )

ในเชิงมุมที่ดี ทำให้เป็นมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด เป็นนักรับที่เปี่ยมไปด้วยความโรแมนติก ชอบคบคนหน้าใหม่ๆ อารมณ์เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น รสนิยมดีเลิศ เป็นศิลปินที่เยี่ยมยอด ชีวิตมักพบกับความสำเร็จได้บ่อยครั้ง โชคดีเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ชีวิตมักเดินทางบ่อย และ มักได้ประโยชน์จากการเดินทาง

ในเชิงมุมที่ร้าย ปัญหาทางอารมณ์มักวุ่นวาย เจ้าอารมณ์ ชีวิตความรักและการครองเรือนมักรีบร้อนด่วนได้ และมักผิดหวังไม่มั่นคง ด้านการเงินมักสูญเสียอย่างงายและปัจจุบันทันด่วน การงานมักประสบอุปสรรคและยุ่งยากเสมอ

ในเชิงมุมที่ร้าย มักก่อนให้เกิดอุปสรรคขัดขวางในชีวิตมาก ชีวิตมักเศร้าหมองกดดัน ย่อท้ออะไรได้ง่าย เป็นคนไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ ว้าเหว่

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวศุกร์ (๖) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ซึ่งแบ่งเป็นมุมที่ดีและมุมที่ร้าย ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• เสน่ห์และความโรแมนติก: ทำให้บุคคลมีเสน่ห์ดึงดูดใจ เป็นนักรักที่เปี่ยมด้วยความโรแมนติก ชอบพบปะผู้คนใหม่ ๆ และมีอารมณ์กระตือรือร้น​
• รสนิยมและความคิดสร้างสรรค์: มีรสนิยมดีเลิศ และมีความสามารถในด้านศิลปะ ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตบ่อยครั้ง​
• โชคดีด้านการเงินและการเดินทาง: มักมีโชคดีในเรื่องการเงิน ชีวิตเต็มไปด้วยการเดินทาง และได้รับประโยชน์จากการเดินทางเหล่านั้น​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• ปัญหาทางอารมณ์และความรัก: อาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์ วิตกกังวล ชีวิตรักและการครองเรือนมักรีบร้อนและไม่มั่นคง​
• ความสูญเสียทางการเงิน: มีแนวโน้มที่จะสูญเสียทางการเงินอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด​
• อุปสรรคในการทำงาน: การงานมักประสบอุปสรรคและความยุ่งยากเสมอ

มฤตยู ( ๐ ) กับ เสาร์ ( ๗ )

ในเชิงมุมที่ดี ทำให้เกิดความคิดที่ลึกซึ้ง สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้ดี มีความสามารถในการจัดระเบียบและการปกครอง ก่อให้เกิดการปรับปรุง ทำให้เกิดความมุมานะที่น่าสรรเสริญ รักสันโดษสมถะ

ในเชิงมุมที่ร้าย มักก่อนให้เกิดอุปสรรคขัดขวางในชีวิตมาก ชีวิตมักเศร้าหมองกดดัน ย่อท้ออะไรได้ง่าย เป็นคนไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ ว้าเหว่

การที่ดาวมฤตยู (๐) ทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์ (๗) สามารถส่งผลต่อบุคคลในลักษณะต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของมุมที่เกิดขึ้น ดังนี้:​

มุมที่ดี (เช่น ตรีโกณ, โยค):

• ความคิดลึกซึ้งและการจัดการที่ดี: เสริมสร้างความคิดที่ลึกซึ้งและความสามารถในการจัดระเบียบและการปกครอง ทำให้สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​
• ความมุมานะและรักสันโดษ: ก่อให้เกิดความมุมานะที่น่าสรรเสริญ และมีแนวโน้มที่จะรักสันโดษและความสมถะ​

มุมที่ร้าย (เช่น กุม, เล็ง, จตุโกณ):

• อุปสรรคและความกดดันในชีวิต: อาจทำให้เผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในชีวิตมากมาย ส่งผลให้ชีวิตเศร้าหมองและกดดัน​
• ความย่อท้อและขาดระเบียบ: มีแนวโน้มที่จะย่อท้อต่อความยากลำบาก ขาดระเบียบกฎเกณฑ์ และรู้สึกว้าเหว่​

การที่ดาวมฤตยู (๐) และดาวราหู (๘) สถิตอยู่ร่วมกันในราศีเดียวกัน (เรียกว่า "กุมกัน") ถือเป็นการทำมุมที่ส่งผลกระทบต่อดวงชะตาอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทั้งสองดาวเป็นดาวบาปเคราะห์ที่มีพลังงานรุนแรง การกุมกันนี้สามารถส่งผลได้ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ในดวงชะตา ดังนี้:​

เชิงมุมที่ดี:

• ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถพิเศษ: การกุมกันของมฤตยูและราหูอาจเสริมสร้างความคิดที่แปลกใหม่และความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทำให้บุคคลมีความคิดริเริ่มและนวัตกรรม​
• ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว: อาจนำไปสู่ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านการงานหรือชีวิตส่วนตัว เนื่องจากพลังงานที่เข้มแข็งของทั้งสองดาว​

เชิงมุมที่ร้าย:

• ความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด: การกุมกันของดาวบาปเคราะห์ทั้งสองอาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในชีวิต
• ความเครียดและความกดดัน: อาจเพิ่มระดับความเครียดและความกดดัน เนื่องจากพลังงานที่รุนแรงของทั้งสองดาว​
• ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือปัญหาสุขภาพ: การกุมกันนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงของมุมสัมพันธ์ระหว่างดาวมฤตยูและดาวเสาร์จะขึ้นอยู่กับดวงชะตาเฉพาะบุคคล

#สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ตามระบบธาตุและเรือนชาตา ตามหลักของท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(ุอุตรภัทร์) อาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย นำหลักเคล็ดลับการพยากรณ์ตามหลักระบบธาตุของอาจารย์บรรเทา มาใช้ในการวิเคราะห์ทั้งในดวงชาตาเดิม และดวงชาตาจร ทำให้การพยากรณ์ดวงชาตาเกิดความแม่นยำมากในการพยากรณ์ดวงชาตาเดิมและการพยากรณ์ดวงชาตาจร การเชื่อมโยงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจรทำให้คำพยากรณ์ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมทั่งสอนในการนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไทยไปใช้ในการให้ฤกษ์อีกด้วย เป็นหลักสูตรเดียวที่เรียนครบทั้งการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิม การเชื่อมโนงระหว่างดวงชาตาเดิมกับดวงชาตาจร รวมทั้งการให้ฤกษ์ต่าง ๆ อาจารย์จะเปิดสอนรุ่นที่ ๑๙ เริ่มเรียนครั้งที่ ๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เรียนจำนวน ๑๐ อาทิตย์ หลังจากจบการสอนในแต่ละสัปดาห์ผู้เรียนจะได้รับบันทึกการสอน(vdo)และเอกสารประกอบการสอนทางอีเมล์ เพื่อใช้ทบทวนการเรียน ทำให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ดีอย่างเป็นระบบ สนใจสมัครเรียนรุ่นนี้ หรือต้องการตรวจสอบดวงชาตา ให้อินบ๊อก : m.me/arjarnth