ความสำคัญของดวงนวางค์จักร

ดวงนวางค์จักรสำคัญต่อโหราศาสตร์ไทยอย่างไร
ในการตรวจสอบดวงชาตาตามระบบโหราศาสตร์ไทย ปกติเราจะใช้ ดวงราศีจักร (หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ดวงอีแปะ”) เป็นพื้นฐานในการพยากรณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดกับเจ้าของดวงชะตา แต่ในความเป็นจริงนั้น การใช้ดวงราศีจักรเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถบอกคุณภาพที่แท้จริงของดาวเคราะห์ในดวงได้ทั้งหมด
ท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ได้อธิบายไว้ใน โหราศาสตร์ปริทรรศน์ “จันทรวินิจฉัย” ถึงความสำคัญของการใช้ดวงนวางค์จักรควบคู่กับดวงราศีจักรไว้ว่า:
จุดประสงค์ของการผูกดวงนวางค์จักร
ในการผูกดวงราศีจักร เราจะต้องทราบว่า:
- ลัคนาสถิตราศีใด
- ดาวเคราะห์ต่าง ๆ สถิตในราศีอะไร
- ราศีนั้นเป็นธาตุอะไร เป็นธาตุชั้นที่เท่าไร
- องศาและลิปดาของดาวเคราะห์เท่าใด
- อยู่ในนวางค์ลูกที่เท่าไร
- นวางค์นั้นครองโดยราศีใด
เพื่อให้สามารถ ผูกดวงนวางค์จักร ได้อย่างถูกต้อง และนำไปใช้วิเคราะห์คุณภาพของดาวเคราะห์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ดวงนวางค์จักรบ่งบอกคุณภาพที่แท้จริงของดาวเคราะห์
ดวงนวางค์จักรเปรียบเสมือน กระจกเงาอีกบานหนึ่ง ที่สะท้อนตัวตนแท้จริงของดาวเคราะห์ในดวงชะตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ตำแหน่งของดาวในดวงราศีจักรให้ผลดี แต่ในดวงนวางค์จักรกลับให้ผลตรงข้าม หรือในทางกลับกัน
ตัวอย่างจากคำสอนของท่านอาจารย์เทพย์:

ดาวพฤหัส (๕) อยู่ในราศีกรกฎ ได้ตำแหน่ง อุจจ์ ดูผิวเผินแล้วน่าจะให้คุณแก่เจ้าชะตาอย่างยิ่ง แต่เมื่อตรวจสอบ องศา ของดาว พบว่าอยู่ที่ ๒๐ องศา ๑ ลิปดา ถึง ๒๓ องศา ๒๐ ลิปดา ซึ่งอยู่ใน นวางค์ที่ ๗ ของราศีกรกฎ โดยนวางค์นี้ถูกครองโดย ราศีมังกร ซึ่งเป็น ตำแหน่งนิจ ของดาวพฤหัส
เมื่อนำไปผูกดวงนวางค์จักร จะเห็นว่าดาวพฤหัส (๕) ไปอยู่ราศีมังกร (นิจ) แสดงว่าแท้จริงแล้วดาวพฤหัสในดวงนี้ ไม่ให้คุณ แม้จะได้อุจในดวงหลักก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นจริงคือเจ้าชะตาเบี่ยงเบนชีวิตไปในทางไม่ถูกต้อง สอดคล้องกับคุณภาพของดาวที่ ได้ตำแหน่งนิจในดวงนวางค์จักร
วิเคราะห์โดยหลักโหราศาสตร์ไทยร่วมกับดวงนวางค์จักร
ข้อมูลพื้นฐาน:
- ดาวพฤหัส (๕) สถิตราศี กรกฎ ได้ อุจจ์ (ตำแหน่งสูงสุด) ตามดวงราศีจักร → ดูผิวเผินน่าจะ “ให้คุณมาก” ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่ง อุจ ในราศีกรกฎ ราศีกรกฎเป็นราศีธาตุน้ำ ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวธาตุดิน เมื่อมาอยู่ในราศีกรกฎ ดาวพฤหัส(๕) ในราศีกรกฎจึงเป็นธาตุชั้นที่ ๒ เป็นธาตุคู่มิตร พฤหัสเป็นอุจจ์ ให้คุณทางวิชาความรู้ มีความรู้ความสามารถสูง เชี่ยวชาญ รับราชการจะได้ดี เหมาะที่จะเป็นครู อาจารย์ แพทย์ วิศวะกร อัยการ ผู้พิพากษา
- ดาวพฤหัส(๕) มีองศา 20°01′ ถึง 23°20′ → จัดอยู่ใน นวางค์ที่ 7 ของราศีกรกฎ (ธาตุน้ำ)
- นวางค์ที่ 7 ของราศีกรกฎ → เกษตรคือ "มังกร" ราศีมังกรเป็นตำแหน่ง นิจของพฤหัส (๕) ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในราศีมังกร ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา ดาวพฤหัส(๕) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป หากดาวพหัส(๕) เป็นนิจ ทำให้เป็นคนเขลาปัญญา สติปัญญาในการศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยดี หรือจะมีโอกาสในเรียนรู้ด้วยความยากลำบากกว่าคนอื่น สำเร็จได้ยาก มักมีสติปัญญาไม่ค่อยเฉียบแหลม และจะเสียนิสัยเพราะปากพล่อย เจ้าชาตามักพูดจาไม่น่าฟัง จะมีโทษเพราะปาก หรือมีโอฐภัย ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป ดาวพฤหัส(๕) ไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน ๑๕ องศา ขึ้นไป นอกนั้น เป็นนิจ
สรุปผลเชิงนวางค์: เมื่อแปลงไปยัง ดวงนวางค์จักร → ดาวพฤหัส (๕) ไปอยู่ ราศีมังกร นั่นคือได้ตำแหน่ง นิจในดวงนวางค์จักร จึงสื่อว่าดาวพฤหัส (๕) นี้ “ไม่ให้คุณ” แม้ในดวงหลักจะได้อุจจ์ก็ตาม
จุดสำคัญที่ต้องพิจารณา:
๑. ในดวงราศีจักร: พฤหัสได้ตำแหน่ง อุจจ์ + ธาตุคู่มิตร → ส่งเสริมปัญญา ความรู้ ศรัทธาในคุณธรรม
- เหมาะกับงานราชการ งานด้านศาสนา การศึกษา กฎหมาย แพทย์ ฯลฯ
๒. เมื่อพิจารณาดวงนวางค์จักร:
- พฤหัสอยู่ นวางค์ที่ ๗ ของกรกฎ → แปลงไปเป็น ราศีมังกรในดวงนวางค์จักร
- มังกรเป็น ราศีนิจของพฤหัส (๕) → แสดงว่า “คุณภาพแท้ของดาว” บกพร่องในชั้นลึก
๓. องศาและสถานะความเป็นนิจ:
- พฤหัสเป็น นิจในราศีมังกร เฉพาะช่วง 0° - 15° เท่านั้น
- ดังนั้นหากในดวงนวางค์จักร พฤหัสในราศีมังกรมีองศามากกว่า 15° → “ไม่เป็นนิจ” ตามเกณฑ์องศา
แต่ในกรณีนี้เรารู้แค่ว่า “ย้ายไปอยู่ราศีมังกร” โดยไม่มีข้อมูลองศาใหม่ในดวงนวางค์จักร ⇒ ดังนั้นในการวิเคราะห์ขั้นต้น ถือว่าเป็นนิจตามตำแหน่งราศีในนวางค์
วิเคราะห์รวม: จะพยากรณ์อย่างไร?
แม้ดาวพฤหัส (๕) จะได้ตำแหน่งอุจจ์ในราศีจักร และอยู่ในธาตุคู่มิตร ส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้มีศรัทธาในวิชา เป็นผู้มีความรู้ดี มีแนวโน้มประสบความสำเร็จทางการศึกษา แต่เมื่อพิจารณาในระดับลึกลงไป พบว่าดาวพฤหัส (๕) อยู่ในนวางค์ราศีมังกร ซึ่งเป็นราศีนิจของดาวนี้ แสดงถึงคุณภาพภายในของดาวมีความบกพร่อง อาจส่งผลให้การใช้ความรู้ผิดทิศผิดทาง มีความเข้าใจผิดในหลักธรรม หรือใช้สติปัญญาไปในด้านที่ไม่เกิดประโยชน์
ตัวอย่างผลที่อาจเกิด:
- มีความรู้ แต่ใช้ผิดทาง
- ยึดมั่นในความเชื่อผิด
- เรียนดี แต่หลงใหลในสิ่งลวง
- พูดเก่งแต่พลั้งปาก นำภัยมาสู่ตนเอง (โอฐภัย)
- หากเป็นครู อาจสอนผิดหลัก หรือมีแนวคิดขัดแย้งกับจริยธรรม
หลักการพยากรณ์:
๑. อย่าตัดสินจากอุจจ์เพียงอย่างเดียว
การที่ดาวพฤหัส (๕) ได้อุจจ์ในราศีจักร ไม่สามารถสรุปได้ว่าให้คุณเสมอ เพราะต้องพิจารณาไปถึง “คุณภาพเชิงลึก” ซึ่ง นวางค์จักร ช่วยให้เราเห็นมุมนี้
๒. เมื่ออยู่ในนวางค์ที่เป็นตำแหน่งนิจ หมายถึง “พื้นฐานจิตวิญญาณ” ของดาวนั้นมีความบกพร่อง → สะท้อนว่า ผู้มีดาวนี้ อาจ เบี่ยงเบนจากธรรม, เชื่อผิดเป็นชอบ, หลงผิดโดยเจตนา, หรือถ้าเป็นนักปกครองก็ปกครองแบบบิดเบี้ยว
๓. ผลทางพฤติกรรม
ดาวพฤหัสคือธรรมะ ปัญญา ความรู้ การยึดมั่นในศีล → เมื่อนิจในดวงนวางค์จักร จึงเกิดลักษณะ:
- วิถีชีวิตหลงผิดทางธรรม เช่น เชื่อในสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ
- รู้ผิดเป็นชอบ, อาจถูกครูอาจารย์ที่นำพาไปในทางไม่ถูกต้อง
- ผิดศีลธรรมโดยที่คิดว่าไม่ผิด
ตัวอย่างคำพยากรณ์
"แม้ดาวพฤหัสจะอยู่ในตำแหน่งอุจจ์ในดวงใหญ่ ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าให้คุณในทางวิชาการ ความรู้ และคุณธรรม แต่เมื่อพิจารณาโดยละเอียดพบว่า พฤหัส (๕) นี้อยู่ในนวางค์ที่ ๗ ของราศีกรกฎ ซึ่งเป็นนวางค์ราศีมังกร อันเป็นตำแหน่งนิจของดาวพฤหัส จึงชี้ว่าดาวดวงนี้ บกพร่องในคุณภาพโดยแท้จริง ผลคือเจ้าชะตามักหลงผิดในหลักธรรม ขาดวิจารณญาณทางจิตวิญญาณ หรืออาจมีช่วงชีวิตหนึ่งที่เบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่ควรจะเป็น แม้จะมีพื้นฐานดีแต่กลับใช้ผิดทาง"
สรุปประโยชน์ของการใช้ดวงนวางค์จักรประกอบดวงราศีจักร
- ใช้วิเคราะห์คุณภาพที่แท้จริงของดาวเคราะห์ในดวงชะตา
- ช่วยตัดสินว่าดาวดวงใดให้คุณหรือให้โทษได้อย่างชัดเจน
- ลดความคลาดเคลื่อนจากการพยากรณ์จากดวงราศีจักรเพียงอย่างเดียว
- ส่งเสริมการพยากรณ์เชิงลึก เช่น ด้านศีลธรรม ครูบาอาจารย์ คู่ครอง บารมี
- เป็นเครื่องมือสำคัญของโหราจารย์ผู้ต้องการความแม่นยำในการพยากรณ์