วิธีอ่านดวงชาตาในระบบธาตุและเรือนชาตาให้เข้าใจ

วิธีอ่านดวงชาตาในระบบธาตุและเรือนชาตาให้เข้าใจ

คำถามที่อาจารย์พบบ่อยว่า หากดาวดวงนี้ ทับดาวดวงดวงนี้ เล็งดาวดวงนี้ จะทำนายอย่างไร โดยที่ไม่เข้าใจระบบของโหราศาสตร์ไทย ฉะนั้น เพื่อให้เข้าใจระบบของของโหราศาสตร์ไทย ที่ถูกต้อง ตามระบบธาตุและเรือน ให้อ่านบทความต่อไปนี้  จะทำให้เข้าใจในการอ่านดวงชาตาได้ถูกต้อง 

วิธีอ่านดวงชาตาให้รู้เรื่องตามหลักโหราศาสตร์ไทย

๑. เมื่อคำนวณดวงชาตาตามวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด จังหวัดที่เกิดและจังหวัดที่อยู่ปัจจุบัน จะได้รูปดวงชาตาดังนี้

               ดวงราศีจักร                                       ดวงนวางค์จักร

ดาวที่เราเห็นในดวงราศีจักร เป็นดาวเรือนนอก มีดาวอีกหนึ่งชุดเรียกว่า ดาวเรือนในซึ่งเรามองไม่เห็น 

๒. ถามว่า ดาวเรือนในคือดาวอะไร ดาวเรือนในที่เราไม่มองเห็น ในดวงชาตาที่เราคำนวณมา เห็นเฉพาะดาวเรือนนอก ดาวเรือนใน คือดาวเกษตรประจำราศี ซึ่งอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าลัคนาจะสถิตราศีใดก็ตาม แต่หน้าที่ของดาวแต่ละดวงขึ้นจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับลัคนา  ว่าลัคนาสถิตอยู่ ณ ราศีใด  จะมีดาวอะไรเป็นดาวเกษตร ดาวดวงนั้น ก็เป็นดาวเจ้าเรือนลัคนา ตัวอย่างเช่น   หากลัคนาสถิตราศีพฤษภ ดาวเรือนในจะมีลักษณะอย่างนี้ 

๓. ดาวเรือนในแต่ละดวงจะทำหน้าที่ไม่เหมือนกัน เช่น เจ้าชาตาลัคนาราศีพฤษภ มีดาวศุกร์(๖) เป็นดาวเรือนใน เป็นดาวเจ้าเรือนตนุลัคนาและเจ้าเรือนอริ ไปสถิตราศีมีน ภพลาภะ ในดวงจักรราศี ซึ่งเป็นดาวเรือนนอก  ดวงจักรราศี เป็นการเชื่อมโยงระหว่างดาวเรือนในกับดาวเรือนนอก ถ้าเข้าใจระบบนี้ ก็ทำให้สามารถพยากรณ์ดวงชาตาได้

  ด้านซ้ายมือ เป็นดวงจักรราศี ดาวที่เห็นในดวงซ้ายมือ เป็นดาวเรือนอก  ด้านขวาบนเป็นดวงนวางค์จักร ใช้ตรวจสอบคุณภาพของดาวในดวงราศีจักร

 ดาวเรือนในหรือดาวเกษตร ๑๒ ราศี จะอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนไม่ว่าลัคนาสถิตราศีใด แต่หน้าที่จะเปลี่ยนไปตามลัคนาที่สถิต

ในการพยากรณ์ดวงชาตา เป็นการเชื่อมโยงระหว่าง ดาวเรือนในกับดาวเรือนนอก

 

ดาวเกษตร ๑๒ ราศี  จะต้องจำให้ได้ว่า แต่ละราศีดาวอะไรเป็นดาวเกษตร ถือว่าเป็นหัวใจที่สำคัญ วิธีจำดาวเกษตร ให้จำเป็นภาคกลางวันและภาคกลางคืน ภาคกลางวันเริ่มจากราศีสิงห์ คือ ๑ ๔ ๖ ๔ ๓ ๕ ๗ ภาคกลางคืน คืน เริ่มจากราศีกรกฎ ๒ ๔ ๖ ๓ ๕ ๘

สิ่งที่จำเป็นต่อมา ต้องเข้าใจคำว่าเรือนชาตาคือะไร ในดวงจักรราศี จะมีเรือนชาตา ๑๒ เรือน เพราะดาวแต่ละดวงจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน หากไม่เข้าใจเรือนชาตาก็ไม่สามารถอ่านดวงได้ เริ่มต้นจาก ตนุ กดุมภะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตนิ มรณะ ศุภะ กัมมะ ลาภะ และวินาสน์  ขึ้นอยู่กับลัคนาว่าสถิตราศีอะไร ดาวเจ้าเรือนก็เปลี่ยนไปตามลัคนาที่สถิตอยู่

เช่นลัคนาสถิตราศีตุลย์ มีดาวศุกร์(๖) เป็นดาวเจ้าเรือนตนุลัคนาและเป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ

๔.   คำพยากรณ์ที่ได้จะใช้ภพผสมภพ คือ ตนุ-ลาภะ  อริ-ลาภะ

๕. การพิจารณาว่าดาวศุกร์(๖) ที่เป็นดาวเจ้าเรือนตนุลัคนาและเป็นดาวเจ้าเรือนอริ จะพยากรณ์ดีหรือไม่ดี จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ดาวศุกร์(๖) ว่าเป็นธาตุอะไรในธาตุ ๔ ชั้น คือธาตุชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่เจ้าชาตามาก ธาตุ ชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณแก่เจ้าชาตา ธาตุ ชั้น ๓ ธาตุเป็น กลาง  ธาตุ ช้ัน ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษ คำพยากรณ์ที่ได้ให้นำหนักร้อยละ ๗๕

๖. ขั้นตอนต่อมาให้ดูมาตรฐานของดาวศุกร์(๖) ว่าได้มาตรฐานดีหรือไม่ดี หากได้มาตฐานดี ให้ผลดี ร้อยละ ๗๕ หากได้มาตรฐานไม่ดี ให้โทษร้อยละ ๒๕

๗. นำข้อมูลจากการวิเคราะห์ในข้อ ๕ และข้อ ๖ มาเป็นคำพยากรณ์  ก็จะได้คำพยากรณ์ที่เป็นระบบถูกต้องตามระบบของโหราศาสตร์ไทย ระบบธาตุและเรือนชาตา

#ติดต่ออาจารย์ฐิ โหราศาสตร์ไทย m.me/arjranth

Read more

เคล็ดลับเกี่ยวกับ "ฆาตขัย"

เคล็ดลับเกี่ยวกับ "ฆาตขัย"

คำว่าฆาต แปลว่า การฆ่า, การทำลาย. ขัย แปลว่า อายุ คำว่า “ฆาตขัย” (บางตำราก็เขียนว่า ฆาตชัย) ในบริบทโหราศาสตร์ไทย เป็นศัพท์เฉพาะ หมายถึง 1. ความหมายตามรากศัพท์ * ฆาต = การตัด, การทำลาย, การสิ้นสุด, ความตาย * ขัย / ชัย = ในภาษาบาลี–สันสกฤต มาจาก

บทกลอนที่ว่าด้วยดาวที่เดินวิกลคติ

บทกลอนที่ว่าด้วยดาวที่เดินวิกลคติ

บทกลอนเก่าแก่เกี่ยวกับการโคจรที่วิปริตผิดปกติของดาวที่เดินวิกลคติ คือ “จักกล่าวพระเคราะห์จรตามราศี อันอาจารย์แจ้งอรรถสาลินีพระอภิธรรมโดยมีฎีกามา พระอาจารย์จารึกบรรทึกไว้คัมภีรไสยตามพุทธโฆษา พระเคราะห์มนท์เสริดพักรนานา ทํานายว่าต่างๆ จะเกิดเป็น  ๑. อังคารพั

เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษของดาวพฤหัส(๕)

เกณฑ์พิเศษ ของดาวพฤหัส(๕)  ตามหลักโหราจารย์ไทย ดาวพฤหัส(๕) เป็นหัวหน้าดาวฝ่ายศุภเคราะห์ ตามหลักดาราศาสตร์เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ฉะนั้น เมื่อดาวพฤหัส(๕)ไปสถิตในเรือนชาตาใด จะมีผลเป็นอย่างมากในเรือนชาตานั้น ๆ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบคุณภาพของดาวพฤหัส(๕) ในดวงนวางค์จักรด้

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณและโทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการคํานวณเอาไว้ แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถึงการเดิน แบบผิดปกติ